แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำมั่นหรือคำรับรองว่าจะให้ที่ดิน เมื่อมิได้จดทะเบียนไว้ ก็ไม่เข้าเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 526 ผู้รับไม่มีสิทธิเรียกร้องจากผู้ให้แต่ประการใด.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์จำเลยได้รับมรดกที่ดินสองแปลงและปกครองร่วมกันมา โจทก์ได้ขอแบ่งที่ดินทั้งสองแปลงนี้ให้เป็นส่วนสัด จำเลยตกลงจะแบ่งหใ้แล้วก็ไม่แบ่ง กลับไปแบ่งระหว่างจำเลยกันเองเสีย จึงขอให้ศาลบังคับให้แบ่งหรือขายเอาเงินแบ่งกัน
จำเลยสู้ว่า ที่ดินตามฟ้องเป็นของจำเลยที่ ๑ แต่ผู้เดียว บุกร้างถางป่าทำกินมากว่า ๑๐ ปีแล้ว ที่ดินทั้งสองแปลงไม่ใช่มรดก โจทก์ไม่ได้รับมรดกจำเลยเคยตกลงจะเบ่งที่ดินให้โจทก์เพราะเห็นเป็นน้องร่วมมารดา แต่ข้อตกลงนี้มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ โจทก์จะขอให้บังคับมิได้
ศาลชั้นต้นฟังว่า ที่พิพาทมิใช่มรดก พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่พิพาทเป็นที่ที่จำเลยบุกร้างถางป่าและได้ครอบครองตลอดมามิใช่ที่ดินมรดก การที่จำเลยได้ไปยื่นคำร้องขอแบ่งที่พิพาทต่อสำนักงานที่ดินให้โจทก์แล้วกลับใจไม่ให้ คำมั่นหรือคำรับรองว่าจะให้ที่ดินดังกล่าว มิได้จดทะเบียนไว้ จึงไม่เข้าเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๒๖ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องประการใด
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์.