แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ฎีกาของจำเลย เป็นฎีกาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย จึงไม่รับฎีกาของจำเลย คืนค่าขึ้นศาลให้ทั้งหมด จำเลยเห็นว่า ฎีกาที่ว่า การที่โจทก์มอบอำนาจให้บุคคลอื่น ดำเนินคดีนี้แทนโจทก์ เป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 และโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ที่มีสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยจากศาลฎีกา โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของจำเลยด้วย หมายเหตุ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้อง แล้วหรือไม่ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากตึกแถวเลขที่ 626/60 แขวงคลองต้นไทรเขตคลองสาน กรุงเทพมหานครและส่งมอบตึกแถวในสภาพเรียบร้อยให้แก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 46) จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 49)
คำสั่ง พิเคราะห์แล้ว จำเลยฎีกาว่า โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยและราษฎร รายอื่น ๆ เพื่อนำที่พิพาทไปสร้างศูนย์การค้าแสวงหาผลกำไร ทั้ง ๆ ที่พิพาทได้มาโดยการรับบริจาค เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 110 และโจทก์กระทำ การฝ่าฝืนต่อกฎหมายมิได้จัดประชุมคณะกรรมการมูลนิธิโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง เห็นว่า เป็นฎีกาในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายต้องฟังข้อเท็จจริงก่อน คดีนี้เป็นคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้แต่เป็นการฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกจากอสังหาริมทรัพย์ อันมี ค่าเช่าในขณะยื่นคำฟ้องเดือนละสามร้อยบาท ไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคสองที่ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ