แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ผู้คัดค้านชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่ผู้ร้องตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยทั้ง 16 คำชี้ขาดไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยไม่มีอำนาจพิจารณาและชี้ขาดคำเสนอข้อพิพาทของผู้ร้องนั้น เป็นกรณีที่ผู้คัดค้านกล่าวอ้างว่าการบังคับตามคำชี้ขาดและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 222 ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้
สัญญาการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัย บทส่งท้าย ข้อ.35 ระบุว่า “คู่สัญญามีสิทธิถอนตัวออกจากความผูกพันตามสัญญานี้ได้โดยการมีหนังสือแจ้งการถอนตัวส่งถึงนายกสมาคมประกันวินาศภัยล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 60 วัน ก่อนวันที่การบอกเลิกมีผลบังคับ และผลแห่งการบอกเลิกสัญญานี้ไม่กระทบถึงเรื่องที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการและเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนการบอกกล่าวถอนตัวจะมีผล” เมื่อมูลเหตุแห่งข้อพิพาทตามคำเสนอข้อพิพาทที่ผู้ร้องเสนอต่ออนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนการบอกกล่าวถอนตัวของผู้คัดค้านจะมีผล การบอกเลิกสัญญาของผู้คัดค้านจึงไม่มีผลกระทบถึงเรื่องดังกล่าว ผู้ร้องและผู้คัดค้านยังคงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยกันต่อไป อนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยจึงมีอำนาจพิจารณาและชี้ขาดคำเสนอข้อพิพาทของผู้ร้อง
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลพิพากษาตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัย 16 คำวินิจฉัยชี้ขาด รวมเป็นต้นเงินและดอกเบี้ยพร้อมค่าธรรมเนียมชั้นอนุญาโตตุลาการทั้ง 16 คำชี้ขาดเป็นเงิน 97,119.07 บาท และดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 83,712.40 บาท นับถัดจากวันยื่นคำร้องเป็นต้นไปจนกว่าผู้คัดค้านจะชำระเงินแก่ผู้ร้องเสร็จสิ้น
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง
ระหว่างพิจารณาคู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงว่า ผู้ร้องกับผู้คัดค้านตกลงทำสัญญาการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัย ผู้คัดค้านได้ทำหนังสือขอถอนตัวจากสัญญาการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2545 คำเสนอข้อพิพาทระหว่างผู้ร้องกับผู้คัดค้านทั้ง 16 เรื่อง เป็นข้อพิพาทที่เกิดขึ้นก่อนการถอนตัวออกจากสัญญาการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยของผู้คัดค้านจะมีผล ผู้คัดค้านขอให้ศาลวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายเพียงประเด็นเดียวว่าอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศัยมีอำนาจพิจารณาและชี้ขาดคำเสนอข้อพิพาททั้ง 16 คำเสนอข้อพิพาทของผู้ร้องหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ผู้คัดค้านชำระเงินจำนวน 96,929.90 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 62,749.90 บาท นับถัดจากวันยื่นคำร้อง (ยื่นคำร้องวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2549) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง กับให้ผู้คัดค้านใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้ร้อง โดยกำหนดค่าทนายความ 1,000 บาท
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยประการแรกว่าผู้คัดค้านมีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาหรือไม่ เห็นว่า ผู้คัดค้านอุทธรณ์ว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ผู้คัดค้านชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแก่ผู้ร้องตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยทั้ง 16 คำชี้ขาดไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยไม่มีอำนาจพิจารณาและชี้ขาดคำเสนอข้อพิพาททั้ง 19 คำเสนอข้อพิพาทของผู้ร้องนั้น เป็นกรณีที่ผู้คัดค้านกล่าวอ้างว่าการบังคับตามคำชี้ขาดและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ.2545 มาตรา 45 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 222 ผู้คัดค้านจึงมีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้
คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยประการต่อมาว่า อนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยมีอำนาจพิจารณาและชี้ขาดข้อพิพาททั้ง 16 คำเสนอข้อพิพาทดังกล่าวได้หรือไม่ ผู้คัดค้านอุทธรณ์ว่า การที่ผู้ร้องยื่นคำเสนอข้อพิพาททั้ง 16 คำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยภายหลังวันที่ 1 ตุลาคม 2545 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คัดค้านได้พ้นจากความผูกพันตามสัญญาการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยแล้ว อนุญาโตลุลาการสมาคมประกันวินาศภัยจึงไม่มีอำนาจรับเรื่องไว้พิจารณานั้น เห็นว่า ตามสัญญาการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัย บทส่งท้าย ข้อ.35 ที่ผู้ร้องและผู้คัดค้านได้ร่วมกันทำขึ้นระบุว่า “คู่สัญญามีสิทธิถอนตัวออกจากความผูกพันตามสัญญานี้ได้โดยการมีหนังสือแจ้งการถอนตัวส่งถึงนายกสมาคมประกันวินาศภัยล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 60 วัน ก่อนวันที่การบอกเลิกมีผลบังคับ และผลแห่งการบอกเลิกสัญญานี้ไม่กระทบถึงเรื่องที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการและเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนการบอกกล่าวถอนตัวจะมีผล” ข้อเท็จจริงปรากฏว่ามูลเหตุแห่งข้อพิพาทตามคำเสนอข้อพิพาททั้ง 16 คำเสนอข้อพิพาท ที่ผู้ร้องเสนอต่ออนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัย เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนการบอกกล่าวถอนตัวของผู้คัดค้านจะมีผล ดังนั้นผลแห่งการบอกเลิกสัญญาของผู้คัดค้านจึงไม่มีผลกระทบถึงเรื่องดังกล่าว ผู้ร้องและผู้คัดค้านยังคงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติต่อกันตามสัญญาการระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยกันต่อไป แม้การบอกเลิกสัญญาจะมีผลแล้วผู้ร้องก็ยังคงมีสิทธิยื่นคำเสนอข้อพิพาททั้ง 16 คำเสนอข้อพิพาทต่ออนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยได้ อนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยจึงมีอำนาจพิจารณาและชี้ขาดคำเสนอข้อพิพาททั้ง 16 คำเสนอข้อพิพาทของผู้ร้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ผู้คัดค้านชำระเงินแก่ผู้ร้องตามที่อนุญาโตตุลาการสมาคมประกันวินาศภัยชี้ขาดมานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ให้ผู้คัดค้านใช้ค่าทนายความชั้นฎีกาแทนผู้ร้อง 1,000 บาท.