คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 994/2529

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ค่าน้ำมันรถที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเฉพาะวันที่ลูกจ้างมาปฏิบัติงานแม้จะจ่ายโดยไม่ต้องมีใบเสร็จมาแสดง แต่จำนวนที่ได้รับไม่แน่นอนแล้วแต่มาทำงานกี่วัน จึงเป็นการจ่ายเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานไม่ใช่เพื่อตอบแทนการทำงาน ไม่ถือว่าเป็นค่าจ้าง.

ย่อยาว

ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์เป็นลูกจ้างประจำของจำเลย ในการปฏิบัติงานจำเลยจะจ่ายค่าน้ำมันรถให้โจทก์ทุกวันที่มาทำงาน ถ้าปฏิบัติงานในกรุงเทพฯ จ่ายให้วันละ 190 บาท เว้นไม่จ่ายคือวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ วันที่โจทก์ขาดงาน ลากิจ หรือลาป่วย แต่วันหยุดตามประเพณีจะจ่ายให้ การจ่ายเงินไม่ต้องมีใบเสร็จมาแสดง เดิมจ่ายพร้อมเงินเดือน ต่อมาจ่ายทุก 15 วัน หากโจทก์ออกทำงานต่างจังหวัดจะจ่ายค่าน้ำมันรถให้กิโลเมตรละ 1 บาท 70 สตางค์เดือนหนึ่งโจทก์ต้องออกทำงานต่างจังหวัด 10-20 วัน เฉพาะเดือนสุดท้ายโจทก์ได้ค่าน้ำมันรถ 27 วัน โจทก์มีอายุการทำงานเกิน 3 ปีและก่อนเลิกจ้างไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ค่าน้ำมันรถที่จำเลยจ่ายให้โจทก์ถือไม่ได้ว่าเป็นค่าจ้างตามความหมายของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ไม่ต้องนำมารวมเป็นฐานคำนวณในการจ่ายค่าชดเชยและรับจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าด้วย พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ค่าน้ำมันรถที่จำเลยจ่ายให้แก่โจทก์แม้จะเป็นการจ่ายโดยไม่ต้องมีใบเสร็จมาแสดง แต่จำนวนที่จะได้รับไม่แน่นอน แล้วแต่ว่าโจทก์มาทำงานกี่วัน ในวันหยุดประจำสัปดาห์ วันที่โจทก์ขาดงาน หรือลาหยุดก็จะไม่ได้รับการจ่ายค่าน้ำมันรถให้แก่โจทก์ในลักษณะเช่นนี้จึงเป็นการจ่ายเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงานของโจทก์ ไม่ใช่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานจึงถือไม่ได้ว่าเป็นค่าจ้างตามความหมายของประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน 2515 ไม่ต้องนำมารวมกับเงินเดือนเพื่อเป็นฐานคำนวณในการจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share