แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ไม่สามารถติดตามผู้เสียหายมาเบิกความในชั้นพิจารณาได้พยานหลักฐานของโจทก์คงมีเพียงพยานแวดล้อมกรณีกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายเท่านั้น ดังนี้ คำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนนับว่าเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91, 339,371 และริบอาวุธมีดของกลาง
ครั้งแรกจำเลยให้การรับสารภาพต่อมาได้ขอถอนคำรับสารภาพและให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา339 วรรคสอง, 371 ให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา91 ข้อหาชิงทรัพย์โดยมีอาวุธมีด จำคุก 10 ปีข้อหาพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมืองและทางสาธารณะโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันสมควรให้ปรับ 100 บาทรวมจำคุก 10 ปีปรับ 100 บาทสำหรับโทษปรับ ถ้าจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนริบอาวุธมีดของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยรับสารภาพในชั้นสอบสวนมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษจำคุกให้จำเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยมีกำหนด 6 ปี 8 เดือนนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่ลดโทษให้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โดยลดโทษให้จำเลยเนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน คดีจึงขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะข้อวินิจฉัยเพียงว่าคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาพอที่จะเป็นเหตุบรรเทาโทษและลดโทษให้จำเลยหรือไม่ เห็นว่าข้อเท็จจริงในคดีฟังได้ว่าจำเลยได้กระชากเอาสร้อยคอทองคำที่สวมอยู่ที่คอของนางสาววนิดา รักชาติผู้เสียหายขณะเดินเที่ยวอยู่ในบริเวณวัดเจดีย์ขาวแล้วจำเลยได้วิ่งหลบหนี ผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือจึงมีประชาชนไล่ติดตามจำเลย ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยได้พร้อมสร้อยคอทองคำของผู้เสียหายกับมีดของกลาง จำเลยให้การรับสารภาพทั้งชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนแต่ไม่สามารถติดตามผู้เสียหายมาเบิกความในชั้นพิจารณาได้ พยานหลักฐานของโจทก์คงมีเพียงพยานแวดล้อมกรณีกับคำให้การชั้นสอบสวนของผู้เสียหายเท่านั้นคำให้การรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนนับว่าเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจลดโทษให้แก่จำเลยจึงเหมาะสมตามพฤติการณ์แห่งคดีแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.