คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9602/2553

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เงินทอนของกลางในการล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลยถือว่าเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ จึงต้องริบตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2553)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91 ริบของกลางและนับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษในคดีดังกล่าว
จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนี่ง,66 วรรคหนึ่ง,102 จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน ริบของกลาง นับโทษจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 8057/2543 ของศาลชั้นต้น ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องข้อหาจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ร้อยตำรวจเอกประพันธ์ เจ้าพนักงานตำรวจประจำสถานีตำรวจภูธรอำเภอเทิงทราบจากสายลับว่าจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จึงได้ร่วมกับดาบตำรวจอนันต์ จ่าสิบตำรวจนภดลกับพวก รวมประมาณ 10 คน วางแผนล่อซื้อจากจำเลย โดยได้ขอหมายค้นจากศาลชั้นต้น และในวันที่ 8 มกราคม 2542 ได้นำธนบัตร 100 บาท 1 ฉบับ 20 บาท 8 ฉบับ รวมเป็นเงิน 260 บาท ไปถ่ายสำเนาและลงบันทึกในรายงานประจำวันไว้ เวลา 11.45 นาฬิกา ร้อยตำรวจเอกประพันธ์กับพวกดังกล่าวได้ไปซุ่มอยู่ที่โรงเรียนบ้านป่าไผ่ ตำบลงิ้ว อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ห่างจากบ้านจำเลย 200 เมตร และมอบธนบัตรให้สายลับซึ่งเป็นชายไปล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลย สายลับเดินทางไปประมาณ 15 นาที ก็กลับมาพบร้อยตำรวจเอกประพันธ์กับพวกพร้อมมอบเมทแอมเฟตามีน จำนวน 5 เม็ด และเหรียญ 10 บาท 1 เหรียญ ให้แก่ร้อยตำรวจเอกประพันธ์โดยแจ้งว่าซื้อมาจากจำเลย ร้อยตำรวจเอกประพันธ์กับพวกจึงนำหมายค้นดังกล่าวไปขอตรวจค้นจำเลยและบ้านจำเลย แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นได้ไปตรวจค้นนอกรั้วบ้านจำเลยพบเมทแอมเฟตามีน 189 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้าซุกซ่อนอยู่ในพงหญ้า ชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน เจ้าพนักงานตำรวจแจ้งข้อหาแก่จำเลยว่า มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย เจ้าพนักงานตำรวจทำบันทึกการจับกุมและบันทึกคำให้การชั้นสอบสวนระบุว่าจำเลยให้การรับสารภาพฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน แต่ปฏิเสธฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนหน้านี้จำเลยถูกดำเนินคดีฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน 89 เม็ด ศาลชั้นต้นจำคุก 7 ปี
มีข้อวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยได้กระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนหรือไม่ พยานหลักฐานโจทก์รับฟังได้มั่นคงว่าจำเลยจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำนวน 5 เม็ด ให้แก่สายลับจริง สำหรับเงินทอน 10 บาท ของกลาง ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า เป็นทรัพย์ที่จำเลยได้ใช้ในการกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จึงต้องริบตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 102
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง (เดิม), 66 วรรคหนึ่ง (ที่แก้ไขใหม่) จำคุก 4 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5

Share