คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 957/2507

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถด้วยความประมาทและฝ่าฝืนกฎหมายโดยขับผ่านสี่แยกด้วยความเร็วกว่า 20กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขับผ่านสี่แยกนั้นฝ่าฝืนเครื่องหมายลูกศรให้เลี้ยวซ้าย เป็นเหตุให้ชนรถอื่นมีผู้บาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรฯ และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 300 ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษตามมาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 6 เดือน ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยขับรถเร็วกว่า 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยผิดพระราชบัญญัติจราจรฯปรับ 100 บาท โจทก์ฎีกาศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้ว พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
(หมายเหตุ คำพิพากษาฎีกานี้ มีผลเป็นว่า รูปคดีเช่นนี้ โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับรถด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังและฝ่าฝืนกฎหมาย โดยขับรถยนต์ผ่านสี่แยกสามยอดด้วยอัตราความเร็วสูงกว่า ๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขับผ่านสี่แยกนั้นไปในช่องซ้ายของทางฝ่าฝืนเครื่องหมายลูกศรสีขาวให้เลี้ยวซ้ายเป็นเหตุให้ชนรถยนต์สามล้อเสียหายและนางเสงี่ยมผู้โดยสารบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ.๒๔๗๗ มาตรา ๒๘,๒๙,๓๑,๖๖ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๘๑ มาตรา ๔ กฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๔๗๗ (ฉบับที่ ๒) ข้อ ๑๑ ประกาศเจ้าพนักงานจราจร เรื่องการใช้เครื่องหมายจราจรและการปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร ลงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๐๑ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยขับรถเร็วกว่า ๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงฝ่าฝืนกฎการจราจรทางบก ได้ชื่อว่าขับโดยประมาท ชนรถสามล้อเครื่องเสียหาย และนางเสงี่ยมได้บาดเจ็บสาหัส พิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๔๗๗ มาตรา๒๗(๔),๖๖ แก้ไข(ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๔๘๑ มาตรา ๔ ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐ ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา ๙๑ จำคุก ๖ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยขับรถเร็วเกินกว่าชั่วโมงละ ๒๐ กิโลเมตร แต่คนขับขี่รถสามล้อเครื่องขับฝ่าฝืนสัญญานไฟแดงไปชนรถจำเลย จำเลยไม่ได้ประมาท พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๔๗๗ มาตรา๒๘,๖๖ พระราชบัญญัติจราจรทางบก(ฉบับที่๓) พ.ศ.๒๔๘๑ มาตรา ๔ กฎกระทรวงมหาดไทย ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.๒๔๗๗(ฉบับที่๒)ข้อ ๑๑ ปรับ ๑๐๐ บาท
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า การที่รถยนต์สามล้อเสียหาย และนางเสงี่ยมได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่พอฟังว่าเป็นเพราะความประมาทของจำเลย พิพากษายืน

Share