แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยขับรถยนต์แซงรถบรรทุกชนกับรถที่สวนทางมาเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับอันตรายแก่กาย เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 กับ พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2477 มาตรา29ฐานขับรถโดยประมาทน่าหวาดเสียวอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 390 ปรับ 1,000 บาท กระทงหนึ่ง ผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2477 มาตรา 66 ปรับ 1,000 บาท อีกกระทงหนึ่ง รวมปรับ 2,000 บาทศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นความผิดกรรมเดียวหลายบท ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 บทหนัก ปรับ 1,000 บาท โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยขับรถยนต์โดยประมาท โดยขับรถยนต์แซงรถยนต์บรรทุกซึ่งนายพยอมขับ ขณะนั้นนายสมจิตรขับรถยนต์บรรทุกสวนทางมา เป็นเหตุให้รถยนต์ที่จำเลยขับชนรถยนต์บรรทุกที่นายสมจิตรขับ มีผู้ได้รับอันตรายแก่กาย เห็นว่าการกระทำของจำเลยดังกล่าว นอกจากจะเป็นความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 แล้ว ยังเป็นความผิดฐานขับรถยนต์โดยประมาทน่าหวาดเสียวอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่นตามฟ้อง ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2477 มาตรา 29 ซึ่งแก้ไขโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2508 มาตรา 7 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 59 พ.ศ. 2515 ข้อ 6, 11ด้วย ตามพฤติการณ์แห่งการกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบท ซึ่งต้องลงโทษตามกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยและพิพากษามาชอบแล้ว”
พิพากษายืน