คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 947/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การเช่าเคหะอันอยู่ในบังคับแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน พ.ศ.2486 นั้น ถ้ามิได้ใช้อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่แล้ว ย่อไม่ใช่เคหะตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน(ฉบับที่ 2) 2488 ผู้ให้เช่าย่อมมีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าภายในบังคับแห่ง ป.ม.แพ่งฯ ในระหว่างเวลาที่ใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน(ฉบับที่ 2) 2488 ได้
ในคดีที่คู่ความฎีกาในข้อ ก.ม. ถ้าศาลฎีกาเห็นว่า ศาลล่างทั้งสองยังมิได้พิจารณาวินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญในประเด็น ก็มีอำนาจให้ศาลชั้นต้นพิจารณาข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดีได้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากเคหะที่เช่าโดยอ้างว่าบอกเลิกสัญญาเช่าแล้ว จำเลยไม่ยอมออก
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ห้องเช่ารายนี้มิได้ใช้เป็นที่อยู่อาศัยเป็นส่วนใหญ่แล้ว ย่อมไม่ใช่เคหะตามความหมายแห่ง พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ ๒) ๒๔๘๘ โจทก์บอกเลิกสัญญาในระหว่างเวลาใช้ พ.ร.บ.ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน(ฉบับที่ ๒) ๒๔๘๘ หากได้กระทำถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งประมวลแพ่งแล้ว สัญญาเช่าย่อมระงับไป แต่ศาลชั้นต้นยังมิได้วินิจฉัยว่า การเช่ารายนี้ตกอยู่ในบังคับแห่ง พ.ร.บ. ควบคุมค่าเช่าในภาวะคับขัน (ฉบับที่ ๒) ๒๔๘๘ หรือไม่ และการบอกเลิกสัญญาเช่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จึงพิพากษายกคำพิพากษาตามศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.

Share