คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 946/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ผู้อุทธรณ์ไม่นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยอุทธรณ์คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งภายในกำหนดเวลาที่ศาลสั่ง จะเป็นโดยจงใจหรือหลงลืมพลั้งเผลอย่อมเป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(2)
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 246 บัญญัติให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการพิจารณาและการชี้ขาดตัดสินคดีในศาลชั้นต้น มาใช้บังคับแก่การพิจารณาและการชี้ขาดตัดสินคดีในชั้นอุทธรณ์โดยอนุโลม และมาตรา 229 กำหนดให้ผู้อุทธรณ์ยื่นสำเนาอุทธรณ์ต่อศาลเพื่อส่งให้แก่จำเลยอุทธรณ์ ฉะนั้น การส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่จะละเว้นเสียมิได้และบทบัญญัติแห่งมาตรา 174(2) ย่อมนำมาใช้บังคับในชั้นพิจารณาขอศาลอุทธรณ์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ชำระหนี้ตามหนังสือค้ำประกัน ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งในวันเดียวกับวันที่โจทก์ยื่นอุทธรณ์ คือวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๑๒ ว่า”รับเป็นอุทธรณ์ สำเนาให้จำเลย ให้โจทก์นำส่งสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้จำเลยภายใน ๑๕ วัน มิฉะนั้นถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องอุทธรณ์” วันที่ ๗มกราคม ๒๕๑๓ หัวหน้ากองบังคับคดีแพ่งมีหนังสือรายงานศาลชั้นต้นว่า โจทก์หรือทนายโจทก์ยังไม่มานำหมายไปส่งให้จำเลย วันที่ ๙มกราคม ๒๕๑๓ ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่งวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๑๓ โจทก์ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ว่าทนายของโจทก์หลงลืมไม่มาฟังคำสั่งศาลว่าจะรับอุทธรณ์หรือไม่ และมีคำสั่งอย่างไร มาติดตามเรื่องปรากฏว่าล่วงพ้นเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ไปแล้ว ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งให้โจทก์นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลย
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การที่โจทก์ผู้อุทธรณ์ไม่นำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้แก่อีกฝ่ายหนึ่งในเวลาตามที่ศาลกำหนด จะเป็นโดยจงใจหรือหลงลืม ก็เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๗๔ มีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
โจทก์ฎีกาว่า โจทก์มิได้เพิกเฉย โจทก์ยังติดใจที่จะดำเนินคดีของโจทก์ต่อไป จึงยังไม่เป็นทิ้งฟ้อง และจะนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๔ (๒) มาใช้กับการพิจารณาในชั้นอุทธรณ์ไม่ได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ศาลฎีกาได้พิพากษาไว้เป็นบรรทัดฐานตามฎีกาที่ ๑๗๘/๒๕๐๕ แล้วว่าการที่ผู้อุทธรณ์ไม่นำส่งหมายนัดและสำเนาฟ้องอุทธรณ์ให้อีกฝ่ายหนึ่ง จะเป็นโดยจงใจหรือหลงลืมก็เป็นการทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๔เมื่อโจทก์ผู้อุทธรณ์ยังติดใจดำเนินคดีในชั้นอุทธรณ์ ก็ควรต้องเอาใจใส่ปฏิบัติการให้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย ข้อกล่าวอ้างของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๔ เป็นบทบัญญัติที่อยู่ในภาค ๒ อันว่าด้วยวิธีพิจารณาในศาลชั้นต้น ซึ่งมาตรา ๒๔๖มีบัญญัติไว้ชัดแจ้งแล้วว่า บทบัญญัติว่าด้วยการพิจารณาในศาลชั้นต้นให้ใช้บังคับแก่การพิจารณาในชั้นอุทธรณ์ได้โดยอนุโลม และมาตรา ๒๒๙ก็บัญญัติว่า “การอุทธรณ์นั้น ให้ทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลชั้นต้น ฯลฯให้ผู้อุทธรณ์ยื่นสำเนาอุทธรณ์ต่อศาล เพื่อส่งให้แก่จำเลยอุทธรณ์ ฯลฯ”ดังนี้ การส่งสำเนาอุทธรณ์จึงเป็นข้อที่ละเว้นเสียมิได้
พิพากษายืน

Share