คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าโจทก์ถึงแก่กรรมในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ศาลชั้นต้นต้องเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ออกไปเพื่อดำเนินการให้มีผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ การที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1ไปโดยยังไม่มีผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2525 จำเลยเช่าอาคารเลขที่ 277-278 จากนางอูบ วงศ์พรหม มีกำหนด 5 ปี 5 เดือนต่อมานางอูบยกที่ดินและอาคารดังกล่าวให้โจทก์และนางละมูลบุญสิทธิ์ โจทก์และนางละมูลแบ่งกรรมสิทธิ์รวมในที่ดินส่วนของโจทก์มีอาคารดังกล่าวรวมอยู่ด้วย เมื่อครบกำหนดสัญญาเช่าแล้วจำเลยไม่ยอมออกไป ขอให้บังคับจำเลยพร้อมบริวารออกจากที่ดินและอาคารของโจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า โจทก์ในฐานะผู้รับโอนต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ จำเลยกับนางอูบทำสัญญาเช่ากันใหม่มีกำหนด 15 ปี 5 เดือน เป็นสัญญาต่างตอบแทนยิ่งกว่าการเช่าธรรมดาจำเลยเพิ่งอยู่ในอาคารพิพาทเพียง 5 ปี 5 เดือน ยังเหลือเวลาเช่าอีก 10 ปี ทำให้จำเลยเสียหายเป็นเงิน 37,000 บาท รวมกับค่าต่อเติมและซ่อมแซมอาคารพิพาทอีก 37,508 บาท เป็นเงิน 74,508 บาท ขอให้ยกฟ้องและให้โจทก์ชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยพร้อมบริวารออกจากอาคารเลขที่277-278 ถนนเสริมสวาสดิ์ ตำบลในเขตเทศบาล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไปทั้ง ๆ ที่จำเลยได้แถลงไว้แล้วว่า โจทก์ถึงแก่กรรมแล้ว ขอให้ศาลเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1ไป เป็นการไม่ชอบนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42บัญญัติว่า “ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในคดีที่ค้างพิจารณาอยู่ในศาลได้มามรณะเสียก่อนศาลพิพากษาคดี ให้ศาลเลื่อนการนั่งพิจารณาไปจนกว่าทายาทของผู้มรณะจะได้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่”ข้อเท็จจริงได้ความว่าก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1จำเลยยื่นคำแถลงว่าโจทก์ถึงแก่กรรมขอเลื่อนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 และในวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1ศาลชั้นต้นก็จดรายงานกระบวนพิจารณาว่า ผู้จัดการมรดกของโจทก์มาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 จึงน่าเชื่อว่าโจทก์ถึงแก่กรรมในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ซึ่งศาลชั้นต้นจะต้องเลื่อนการนั่งพิจารณาคดีรวมทั้งการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1ออกไปเพื่อดำเนินการให้มีผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ก่อน การที่ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไปในวันดังกล่าว โดยยังไม่มีผู้เข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ จึงไม่ชอบด้วยบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น จึงเห็นสมควรให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องก่อน
พิพากษาให้เพิกถอนการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการเรื่องคู่ความมรณะระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ก่อน แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามรูปคดี

Share