แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อเชื่อสีไปจากโจทก์โดยรับมอบของไปแล้ว แต่ยังไม่ชำระเงินแก่โจทก์ จำเลยให้การว่าจำเลยไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับโจทก์. ไม่เคยติดต่อซื้อของจากโจทก์ ดังนี้ ประเด็นจึงคงมีเพียงว่า จำเลยได้ซื้อเชื่อสีไปจากโจทก์หรือไม่เท่านั้น จำเลยจะนำสืบว่าได้ชำระเงินค่าสีแก่โจทก์แล้วไม่ได้ เพราะเป็นการนำสืบนอกประเด็น และเมื่อฟังว่าจำเลยได้ซื้อเชื่อสีไปจากโจทก์จริงตามฟ้องแล้ว ย่อมต้องฟังว่าจำเลยยังมิได้ชำระเงินค่าสีแก่โจทก์ เพราะจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ในข้อนี้ไว้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ซื้อสีชนิดต่าง ๆ ตามเอกสารท้ายฟ้องจากโจทก์ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ๒๕๐๖ เป็นเงินรวม ๑๙,๑๙๐บาท และรับมอบของไปแล้ว แต่ยังไม่ชำระเงินให้ โจทก์ทวงถามจำเลยไม่ยอมชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามฟ้อง
จำเลยให้การว่า ไม่เคยซื้อสีจากโจทก์ตามฟ้อง ทั้งไม่เคยรับสีไว้ จำเลยไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ ผู้เซ็นรับมอบของเป็นใคร จำเลยไม่ทราบ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยได้ซื้อสีจากโจทก์ตามฟ้อง แต่ได้ชำระเงินค่าสีให้แก่นายจินอู้คนเก็บเงินของบริษัทโดยไม่ทราบว่านายจินอู้ได้ออกจากบริษัทโจทก์ไปแล้ว เป็นเรื่องที่โจทก์จำต้องไปว่ากล่าวเอากับนายจินอู้เอง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยยังมิได้ชำระเงินค่าสีตามฟ้องแก่โจทก์ พิพากษากลับให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยได้ซื้อของจากโจทก์ไปตามฟ้องจำเลยก็มีหน้าที่ต้องชำระเงินค่าของแก่โจทก์การที่จำเลยนำสืบขึ้นภายหลัง โดยมิได้ให้การต่อสู้ไว้ก่อนว่าได้ชำระราคาให้ไปแล้ว จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็นที่ว่ากล่าวกันมาจำเลยจะนำสืบข้อนี้ไม่ได้
พิพากษายืน.
