แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของรถให้ผู้ที่จะรับจ้างปืนคนขับรถของตนทดลอง+ขับรถดูก่อนเพื่อดูความสามารถโดยตนเอง ก็เป็นผู้นั่งควบคุมไปด้วยต้องรับผิดร่วมกันเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่รถไปชนผู้อื่นบาดเจ็บ
ย่อยาว
คดีนี้ อ.ซื้อรถยนตร์ไว้จาก ก. 1 คันชำระราคากันแล้ว แต่ยังไม่ได้โอนทะเบียนกัน ช.มาขอรับจ้างเป็นคนขับรถ อ. ยังไม่เคยเห็นความสามารถ จึงยังไม่ตกลงด้วยเป็นแต่ให้ ช. มาทดลองขับเพื่อความสามารถ ช. จึงขับออกจากบ้านของ อ. โดยมี อ. เป็นผู้นั่งไปด้วยแลในการนี้ อ. จะต้องไปทำงานจึงสั่งให้ ช ขับรถไปส่งที่ ๆทำงานด้วย ขณะมาตามทาง ช.ขับรถไปโดนโจทก์บาดเจ็บ ช.ถูกฟ้องทางอาชญา ได้รับโทษฐานขับรถโดยประมาทไปแล้ว โจทก์จึงฟ้องจำเลยในทางแพ่งเรียกค่าเสียหาย 2,000 บาท
ศาลเดิมแลศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ ช. แล ล.ร่วมกันรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ 505 บาท ตามประมวลแพ่ง ฯ ม.437
อ.ฎีกาว่า 1. ที่ศาลล่างถือเอาข้อเท็จจริงในคดีอาชญาที่ ช.คนเดียวเป็นจำเลยมาเป็นหลักในคดีนี้ไม่ชอบ เพราะ อ.ไม่ได้เป็นคู่ความด้วย 2. อ. แล ช. ไม่ใช่นายจ้างแลลูกจ้างกัน จึงไม่ต้องร่วมกันรับผิดกับ ช.ตามมาตรา 425 (3) ม.437 ไม่ได้มุ่งหมายที่จะให้ทั้งผู้ครอบครองแลผู้ดูแลรับผิดทั้ง ๒ คน แต่มุ่งหมายให้คนใดคนเดียวที่เป็นทั้งผู้ครอบครองและควบคุมดูแลเป็นผู้รับผิด
ศาลฎีกาเห็นว่าตามฎีกาข้อ 1 ศาลล่างถือเอาพะยานในสำนวนแพ่งชี้ขาดข้อเท็จจริงหาได้อาศัยข้อเท็จจริงในสำนวนคดีอาชญาเป็นหลักแต่อย่างเดียวไม่ ตามฎีกาข้อ 2. เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยความในมาตรานี้ เพราะศาลเดิมไม่ได้ยกขึ้นวินิจฉัย แลตามฎีกาข้อ 2, 3 เห็นว่าผู้เป็นแต่ครอบครองก็ดี ผู้เป็นแต่ครบดูแลก็ดีย่อมรับผิดตามมาตรา ๔๓๗ แลถ้าความครอบครองก็ดี ความควบคุมแลก็ดี อยู่ในต่างบุคคลกับบุคคลเหล่านั้นก็ต้องรับผิดด้วยกันจึงพิพากษาให้ยืนตามศาลล่าง