แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สารวัตรศึกษาไม่ใช่เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ออกบัตรประจำตัวประชาชน ฉะนั้นแม้จะรับสินบนหรือจดแจ้งความเท็จในการทำบัตรนั้น ก็ไม่เป็นผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 138,230
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 1 รับราชการเป็นสารวัตรศึกษาธิการอำเภอ จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานเทศบาลสามัญ เทศบาลธนบุรี และเป็นผู้ช่วยนายทะเบียนท้องถิ่นแขวงอำเภอธนบุรี มีหน้าที่รับแจ้งในเรื่องเกี่ยวด้วยทะเบียนสำมะโนครัว ทะเบียนบ้านรับแจ้งและจดทะเบียนในการที่บุคคลย้ายที่อยู่เข้าออก คนเกิดคนตาย การปลูกบ้านและรื้อบ้านและบัตรประจำตัวประชาชน เมื่อวันที่ 26 ถึงวันที่ 28 พ.ค. 2498 เวลากลางวัน จำเลยสมคบกันกระทำการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ บังคับเรียกและรับเงินสินบนไว้จากนายสานกับนายหยาดคนละ 200 บาทเป็นอาณาประโยชน์ของตนกับพวก ซึ่งมิควรจะรับไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการที่นายสานกับนายหยาดมาขอบัตรประจำตัวประชาชน
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 2 ผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 230, 138, 65 ที่แก้ไขแล้ว มาตรา 3 รวมกระทงลงโทษจำคุกคนละ 6 ปี ลดฐานสมรู้ให้จำเลยที่ 1 อีก 1 ใน 3 จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 4 ปี ลดตาม มาตรา 59 คนละ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 กำหนด 2 ปี 8 เดือน จำเลยที่ 2 กำหนด 4 ปี
จำเลยที่ 2 ผู้เดียวอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์รวมถึงจำเลยที่ 1 ด้วย
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพยานหลักฐานโจทก์ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 ได้เข้าร่วมตกลงรับทำการช่วยเหลือในการทำบัตรประชาชน จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิด ส่วนจำเลยที่ 1 ไม่มีหน้าที่ในการออกบัตรประจำตัวประชาชน จึงไม่เป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่แม้จำเลยที่ 1 จะได้เข้าช่วยเหลือในการทำบัตรประจำตัวประชาชนกับได้รับเงินมา ก็ไม่มีความผิดฐานสมคบหรือสมรู้ด้วยเจ้าพนักงานรับสินบนและจดข้อความเท็จพิพากษายืน