แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ใบตราส่งเป็นแบบพิมพ์ของจำเลยที่ 2 ระบุว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ขนส่ง ทั้งตู้สินค้าที่ใช้ในการขนส่งเป็นของจำเลยที่ 2 จึงฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้ขนส่งสินค้า ส่วนจำเลยที่ 1 ปรากฏตามใบตราส่งด้านล่างระบุว่า จำเลยที่ 2 เพื่อบริษัทจำเลยที่ 1 ในฐานะตัวแทนของสายการเดินเรือ แสดงว่า จำเลยที่ 1 เป็นเพียงตัวแทนของจำเลยที่ 2 เท่านั้น มิได้เป็นผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่น
บริษัทจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ขนส่งตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น จำเลยที่ 1 ในฐานะตัวแทนของสายการเดินเรือได้ออก ใบตราส่งให้แก่ผู้ส่งของ และด้านหลังของใบตราส่งมีตราประทับของจำเลยที่ 1 ไว้ด้วย จึงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนทำสัญญาแทนจำเลยที่ 2 ตัวการซึ่งอยู่และมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงต้องรับผิดตามสัญญารับขนของทางทะเลต่อผู้ส่งของ
ตาม พ.ร.บ. การรับขนของทางทะเล พ.ศ. 2534 ไม่มีบทบัญญัติใดยกเว้นความรับผิดของตัวแทนที่ทำสัญญาแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศและมีภูมิลำเนาในต่างประเทศไว้
ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 7 (5) บัญญัติไว้ว่า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งเกี่ยวกับการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้า หรือตราสารการเงินระหว่างประเทศหรือการให้บริการระหว่างประเทศ การขนส่งระหว่างประเทศ การประกันภัยและนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง และในคดีนี้เป็นเรื่องการขนส่งระหว่างประเทศ การประกันภัยและนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษา
โจทก์ผู้รับประกันสินค้าชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าความเสียหายที่แท้จริงที่ผู้เอาประกันภัยได้รับ โจทก์จึงรับช่วงสิทธิมาเป็นจำนวนตามความเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยได้รับอย่างแท้จริง
ตามใบตราส่งด้านหน้าและใบแนบมีข้อความระบุไว้ว่า บรรจุใน 1,000 กล่อง จึงเท่ากับ 1,000 หน่วยการขนส่งตาม พ.ร.บ. การรับขนของทางทะเล พ.ศ. 2534 มาตรา 59 (1) เมื่อปรากฏว่าความเสียหายของสินค้ามี 38 เปอร์เซ็นต์ ความเสียหายอย่างน้อยที่สุดเมื่อคิดตามหน่วยการขนส่ง คือ 380 กล่อง หรือ 380 หน่วยการขนส่ง ตามมาตรา 58 วรรคหนึ่ง จึงจำกัดความรับผิดไว้ไม่เกิน 3,800,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่า เมื่อความเสียหายที่แท้จริงต่ำกว่าจำนวนที่จำกัดความรับผิดไว้ดังกล่าว จำเลยที่ 1 และที่ 2 จึงต้องรับผิดตามความเสียหายที่แท้จริงตามมาตรา 58 วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน ๑,๓๒๐,๖๑๕.๐๗ บาท และร่วมกันชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ในเงินต้น ๑,๒๔๔,๑๗๕ บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๒ ให้การขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๓ ให้การว่า จำเลยที่ ๓ เป็นเพียงตัวแทนเรือมิใช่ผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่น ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ และจำเลยที่ ๒ ร่วมกันชำระเงิน ๙๒๐,๘๗๖.๓๓ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๓๙ ไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น แก่โจทก์ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ ๓
จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยแล้วคดีมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ประการแรกว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ เป็นผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่นหรือไม่ และจำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนทำสัญญาแทนจำเลยที่ ๒ ตัวการซึ่งอยู่และมีภูมิลำเนาในต่างประเทศหรือไม่ เห็นว่า ใบตราส่งเป็นแบบพิมพ์ของจำเลยที่ ๒ โดยระบุว่า จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ขนส่ง ทั้งนายพีรัตน์พยานจำเลยที่ ๑ ก็เบิกความยืนยันว่า ตู้สินค้าเป็นของจำเลยที่ ๒ จึงฟังว่า จำเลยที่ ๒ เป็นผู้ขนส่งสินค้ารายนี้ ส่วนจำเลยที่ ๑ ปรากฏตามใบตราส่งด้านล่างระบุว่า บริษัท นิปปอน ยูเซ็น ไกชา จำกัด (หมายถึงจำเลยที่ ๒) เพื่อ บริษัท เอ็น. วาย. เค. ชิปปิ้ง เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด (หมายถึงจำเลยที่ ๑) ในฐานะตัวแทนของสายการเดินเรือ เอ็น. วาย. เค ไลน์ จำกัด จึงแสดงว่าจำเลยที่ ๑ เป็นเพียงตัวแทนของจำเลยที่ ๒ เท่านั้น มิได้เป็นผู้ขนส่งหรือผู้ขนส่งอื่น เมื่อปรากฏว่า จำเลยที่ ๒ ตั้งอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และได้ความว่า จำเลยที่ ๑ ได้ออกใบตราส่งให้แก่ผู้ส่งของ และด้านหลังของใบตราส่งมีตราประทับของจำเลยที่ ๑ ไว้ด้วยข้อเท็จจริง จึงฟังได้ว่า จำเลยที่ ๑ เป็นตัวแทนทำสัญญาแทนจำเลยที่ ๒ ตัวการซึ่งอยู่และมีภูมิลำเนาในต่างประเทศจริง จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ จึงต้องรับผิดตามสัญญารับขนของทางทะเลต่อบริษัทคิงฟิชเชอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ส่งของ
ส่วนจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์ว่า ตามพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้บัญญัติยกเว้นความรับผิดของตัวแทนเรือหรือตัวแทนผู้ขนส่งไว้ จำเลยที่ ๑ จึงไม่ต้องรับผิดนั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติดังกล่าว มาตรา ๓ เพียงแต่ไม่ถือว่าจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ขนส่งอื่นเท่านั้น ไม่มีบทบัญญัติใดยกเว้นความรับผิดของตัวแทนที่ทำสัญญาแทนตัวการซึ่งอยู่ต่างประเทศ และมีภูมิลำเนาในต่างประเทศ
และที่จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ อุทธรณ์ว่า ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๗ มิได้บัญญัติให้ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศมีอำนาจในการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๒๔ ดังนั้นจึงถือว่าศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาพิพากษาคดีเกินกว่าอำนาจที่กฎหมายกำหนดให้นั้น เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวบัญญัติไว้ว่า มาตรา ๗ ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศมีอำนาจพิจารณาคดีดังต่อไปนี้ (๕) คดีแพ่งเกี่ยวกับการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้า หรือตราสารการเงินระหว่างประเทศหรือการให้บริการระหว่างประเทศ การขนส่งระหว่างประเทศ การประกันภันและนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่องและในคดีนี้เป็นเรื่องการขนส่งระหว่างประเทศการประกันภัย และ นิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง จึงมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีนี้ได้
มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ว่า สินค้าตามฟ้องเสียหายหรือไม่เพียงใด และจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ จะต้องรับผิดหรือไม่เพียงใด เห็นว่า ตามที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยไว้ เมื่อสินค้าได้รับความเสียหายเพียง ๓๘ เปอร์เซ็นต์ แต่โจทก์ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้บริษัทคิงฟิชเชอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ไป ๕๐ เปอร์เซ็นต์ ถือว่าโจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าความเสียหายที่แท้จริงที่ผู้เอาประกันภัยได้รับ โจทก์จึงรับช่วงสิทธิมาเป็นจำนวน ๓๘ เปอร์เซ็นต์ ตามความเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยได้รับอย่างแท้จริง จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ จึงต้องรับผิดต่อโจทก์ตามอัตรา ๓๘ เปอร์เซ็นต์
ส่วนจำเลยที่ ๑ และที่ ๒ อุทธรณ์ว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ถูกจำกัดความรับผิดไว้ตามพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๕๘ ซึ่งให้จำกัดความรับผิดของผู้ขนส่งไว้เพียงหนึ่งหมื่นบาทต่อหนึ่งหน่วยการขนส่ง หรือกิโลกรัมละสามสิบบาทต่อน้ำหนักสุทธิแห่งของนั้นแล้วแต่เงินจำนวนใดจะมากกว่า ซึ่งเมื่อปรากฏว่าสินค้ามีน้ำหนักสุทธิ ๑๐,๘๘๖.๔๐ กิโลกรัม และพบความเสียหายเพียง ๓๘ เปอร์เซ็นต์ จึงคิดเป็นเงินจำนวน ๑๒๔,๑๐๔.๙๖ บาท เท่านั้น เห็นว่า ตามใบตราส่งด้านหน้าและใบแนบมีข้อความระบุว่า บรรจุใน ๑,๐๐๐ กล่อง จึงเท่ากับ ๑,๐๐๐ หน่วย การขนส่งตามมาตรา ๕๙ (๑) เมื่อปรากฏว่าความเสียหายของสินค้ามี ๓๘ เปอร์เซ็นต์ ความเสียหายอย่างน้อยที่สุดเมื่อคิดตามหน่วยการขนส่ง คือ ๓๘๐ กล่อง หรือ ๓๘๐ หน่วยการขนส่ง ตามมาตรา ๕๘ วรรคหนึ่ง จึงจำกัดความรับผิดไว้ไม่เกิน ๓,๘๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่มากกว่า หาใช่จำกัดความรับผิดไว้เป็นเงิน ๑๒๔,๑๐๔.๙๖ บาท ไม่ เมื่อความเสียหายที่แท้จริงของบริษัทคิงฟิชเชอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด เป็นเงิน ๙๒๐,๘๗๖.๓๓ บาท ต่ำกว่าจำนวนที่จำกัดความรับผิดไว้ดังกล่าว จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ จึงต้องรับผิดตามที่บริษัท คิงฟิชเชอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้รับความเสียหายอย่างแท้จริงต่อโจทก์ ตามพระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๕๘ วรรคสอง
พิพากษายืน .