แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผู้เป็นภริยาถอนเงินฝากซึ่งเป็นสินสมรสไปฝากที่ธนาคารอื่นโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบ เป็นการขัดขวางการจัดการสินสมรสของโจทก์ ขอให้แยกสินสมรสหรือขอให้โจทก์ลงชื่อร่วมในบัญชีเงินฝากนั้น แม้ตามคำฟ้องของโจทก์จะมิใช่กรณีที่โจทก์อาจร้องขอให้ศาลสั่งให้แยกสินสมรสได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1484 เพราะจำเลยมิใช่เป็นผู้มีอำนาจจัดการสินสมรสฝ่ายเดียวก็ตามแต่โจทก์ก็ขอให้ลงชื่อตนเป็นเจ้าของรวมในบัญชีเงินฝากเพื่อการเบิกถอนเงินด้วยเงินฝากในธนาคารเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นสินสมรสจำพวกที่มีเอกสารเป็นสำคัญซึ่งตามมาตรา 1475 ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะร้องขอให้ลงชื่อตนเป็นเจ้าของรวมกันในเอกสารนั้นได้ เมื่อจำเลยไม่ยินยอม กรณีจึงถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งสิทธิของโจทก์เกิดขึ้นแล้ว ชอบที่ศาลชั้นต้นจะรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยเป็นสามีภริยากันมีสินสมรสคือเงินสดซึ่งฝากอยู่ที่ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขาลพบุรีจำนวน 5,600,000 บาทเศษ จำเลยได้ถอนเงินจำนวนดังกล่าวไปหมดสิ้นโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบ และนำไปฝากไว้ที่ธนาคารอื่น เมื่อโจทก์ทราบได้ขอให้จำเลยยอมให้โจทก์ลงชื่อร่วมในบัญชีเงินฝากแต่จำเลยปฏิเสธ ทำให้โจทก์ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากเงินจำนวนดังกล่าวได้ จึงเป็นการขัดขวางการจัดการสินสมรสของโจทก์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ขอศาลมีคำสั่งให้แยกสินสมรสระหว่างโจทก์และจำเลย หากไม่สามารถกระทำดังกล่าวข้างต้นได้ ก็ขอให้ศาลมีคำสั่งให้โจทก์ลงชื่อร่วมในบัญชีเงินฝากร่วมกับจำเลย
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ว มีคำสั่งว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์ที่บรรยายมา ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยได้กระทำการอันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1484จึงให้ยกฟ้องโจทก์เสีย”
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องถือได้หรือไม่ว่า จำเลยกระทำการอันเป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ศาลฎีกาเห็นว่า แม้ตามคำฟ้องของโจทก์จะมิใช่กรณีที่โจทก์อาจร้องขอให้ศาลสั่งให้แยกสินสมรสได้ตามมาตรา 1484 เพราะจำเลยมิใช่เป็นผู้มีอำนาจจัดการสินสมรสฝ่ายเดียวก็ตาม แต่โจทก์ก็ขอให้ลงชื่อตนเป็นเจ้าของรวมในบัญชีเงินฝากเพื่อการเบิกถอนเงินด้วย เงินฝากในธนาคารเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นสินสมรสจำพวกที่มีเอกสารเป็นสำคัญซึ่งตามมาตรา 1475 ให้สิทธิแก่โจทก์ที่จะร้องขอให้ลงชื่อตนเป็นเจ้าของรวมกันในเอกสารนั้นได้ เมื่อจำเลยไม่ยินยอม กรณีจึงถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งสิทธิของโจทก์เกิดขึ้นแล้ว ชอบที่ศาลชั้นต้นจะรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้ยกฟ้องโจทก์ในประเด็นการร้องขอให้ลงชื่อโจทก์เป็นเจ้าของรวมในสินสมรสด้วยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน”
พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องโจทก์ไว้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป