แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ท. มีตำแหน่งเป็นแม่บ้านของโจทก์ มีหน้าที่ดูแลความสะอาดและความเรียบร้อยภายในสำนักงาน บริการจัดหาเครื่องดื่ม ของว่าง และอาหารแก่ผู้มาติดต่อและพนักงานที่ประจำอยู่สำนักงาน กับจัดซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคตามขอบข่ายหน้าที่ ลักษณะงานของ ท. ต้องเข้าทำงานก่อนพนักงานอื่นและต้องทำงานนอกสถานที่ โจทก์กำหนดค่าล่วงเวลาเหมาจ่ายให้ แสดงว่า ท. ต้องเริ่มทำงานก่อนเวลาทำงานปกติ ท. ขับรถจักรยานยนต์ไปที่ทำงาน ได้แวะซื้อของที่ตลาดเพื่อนำไปเตรียมไว้รับรองแขกและพนักงานของโจทก์ตามหน้าที่ ขณะกำลังขับรถจากตลาดไปที่ทำงานได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่ง ท. ได้รับบาดเจ็บ จึงเป็นการที่ ท. ได้รับอันตรายแก่กายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง เป็นการประสบอันตรายตาม พ.ร.บ. เงินทดแทน พ.ศ. 2537 มาตรา 5
โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างทวงถามให้จำเลยจ่ายค่ารักษาพยาบาล ท. แต่จำเลยปฏิเสธ โจทก์จึงชำระเงินค่ารักษาพยาบาล ท. แทนจำเลยไป จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระคืนแก่โจทก์ตั้งแต่วันที่โจทก์ได้ชำระเงินไป จึงเป็นหนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระตามวันแห่งปฏิทิน เมื่อจำเลยไม่ชำระจึงตกเป็นผู้ผิดนัดโดยไม่จำต้องทวงถาม จำเลยต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่โจทก์ชำระเงินไป ตาม ป.พ.พ. มาตรา 204 วรรคสอง และมาตรา 224 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยทั้งสองของจำเลย และให้จำเลยจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล ๓๕,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่โจทก์จ่ายเงิน (วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๔๔) แก่โจทก์
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยหรือคำสั่งของจำเลยเขตพื้นที่ ๓ ที่ รส ๐๗๒๐/๑๗๑๑๔ ลงวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๔ และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนที่ ๒๐๙/๒๕๔๔ ลงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๔ ให้จำเลยชำระเงิน ๓๕,๐๐๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๔๔ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานพิเคราะห์แล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยข้อแรกว่า นางทิพย์พรประสบอันตรายตามความหมายของพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๕ หรือไม่ เห็นว่า นางทิพย์พรมีตำแหน่งเป็นแม่บ้าน มีหน้าที่ดูแลความสะอาดและความเรียบร้อยภายในสำนักงาน บริการจัดหาเครื่องดื่ม ของว่างและอาหารแก่ผู้มาติดต่อและพนักงานที่ประจำอยู่ ณ สำนักงาน กับจัดซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคตามขอบข่ายหน้าที่ ลักษณะงานของนางทิพย์พรจะต้องเข้าทำงานก่อนพนักงานอื่น และต้องทำงานนอกสถานที่ และโจทก์ได้กำหนดค่าล่วงเวลาเหมาจ่ายเป็นรายเดือนให้ โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากนางทิพย์พรต้องเริ่มทำงานก่อนเวลาทำการปกติ แสดงว่านางทิพย์พรต้องเริ่มทำงานให้โจทก์ก่อนเวลา ๘ นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาทำงานปกติของพนักงาน แม้นางทิพย์พรจะยังมิได้ลงชื่อเข้าทำงานก็มิใช่ข้อสาระสำคัญ เพราะตามสภาพความเป็นจริงนางทิพย์พรได้เริ่มปฏิบัติงานตามหน้าที่แล้ว สามารถลงชื่อเข้าทำงานในภายหลังได้ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ขณะนางทิพย์พรขับรถจักรยานยนต์ไปที่ทำงาน นางทิพย์พรได้แวะซื้อของที่ตลาด เพื่อนำไปเตรียมไว้รับรองแขกและพนักงานของโจทก์ตามหน้าที่ เมื่อซื้อของเสร็จกำลังขับรถจากตลาดไปที่ทำงาน ได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์อีกคันหนึ่ง เป็นเหตุให้นางทิพย์พรได้รับบาดเจ็บ กรณีจึงเป็นการที่นางทิพย์พรได้รับอันตรายแก่กายเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง อันเป็นการประสบอันตรายตามความหมายของมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. ๒๕๓๗ โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างของนางทิพย์พรได้ยื่นคำร้องต่อจำเลยเพื่อให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลนั้นแล้ว แต่จำเลยปฏิเสธ โจทก์จึงชำระเงินจำนวนดังกล่าวแทนจำเลยไป ดังนั้น จำเลยมีหน้าที่ต้องชำระคืนแก่โจทก์ตั้งแต่วันที่โจทก์ได้ชำระเงินไป จึงเป็นหนี้ที่มีกำหนดเวลาชำระตามวันแห่งปฏิทิน แต่จำเลยมิได้ชำระ จึงตกเป็นผู้ผิดนัดโดยไม่จำต้องทวงถาม จำเลยต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี แก่โจทก์ นับแต่วันที่โจทก์ได้ชำระเงินไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๐๔ วรรคสอง และมาตรา ๒๒๔ วรรคหนึ่ง
พิพากษายืน.