คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

รายงานประจำวันมีข้อความว่า โจทก์ทั้งสามพร้อมด้วยจำเลยไปแจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2526 ส. ได้นำเงินจำนวน80,616 บาท มาไว้กับจำเลยเพื่อที่ให้มาจ่ายแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน59,866 บาท โจทก์ที่ 2 จำนวน 11,215 บาท และโจทก์ที่ 3 จำนวน9,535 บาท จำเลยได้เก็บรักษาไว้แล้ว และได้พากันมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่าในวันที่ 28 มีนาคม2526 จำเลยจะจัดการเคลีย เงินทั้งหมดให้แก่โจทก์ เอกสารดังกล่าวไม่มีข้อความในทำนองตกลงเพื่อระงับข้อพิพาทที่มีอยู่แล้วหรือที่จะมีขึ้นภายหลัง ทั้งไม่ปรากฏมูลหนี้ใด ๆ ที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์ จึงไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ การที่จำเลยรับฝากเงินจาก ส. เพื่อนำไปชำระให้แก่โจทก์ทั้งสามเป็นการรับไว้ในฐานะตัวแทนของ ส. เพื่อไปชำระให้โจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์และไม่ได้เป็นลูกหนี้โจทก์ โจทก์เป็นเจ้าหนี้ต่อตัวการอย่างไรคงเป็นเจ้าหนี้อยู่เช่นเดิม จำเลยไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัว.

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องจำเลยไป 3 สำนวนมีใจความทำนองเดียวกันว่าจำเลยได้ตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ทั้งสามว่าจะชำระเงินให้โจทก์ แล้วจำเลยไม่ชำระให้ตามกำหนด จึงขอให้ศาลบังคับจำเลยให้ชำระเงินแก่โจทก์ตามสัญญา
จำเลยทั้งสามสำนวนให้การทำนองเดียวกันว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเอกสารท้ายฟ้องไม่ใช่สัญญาประนีประนอม
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ทั้งสามพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสามสำนวนอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาว่ารายงานประจำวัน…ซึ่งมีข้อความว่า โจทก์ทั้งสามพร้อมด้วยจำเลยไปแจ้งว่า เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์2526 นายสว่าง อินสถิตย์ได้นำเงินจำนวน 80,616 บาท มาไว้กับจำเลยเพื่อที่ให้มาจ่ายแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 59,866 บาท โจทก์ที่ 2 จำนวน11,215 บาท และโจทก์ที่ 3 จำนวน 9,535 บาท จำเลยได้เก็บรักษาไว้แล้วและได้พากันมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่าในวันที่ 28 มีนาคม 2526 จำเลยจะมาจัดการเคลียเงินทั้งหมดให้แก่โจทก์ทั้งสามนั้น เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความหรือไม่ เห็นว่าเอกสารดังกล่าวไม่มีข้อความในทำนองว่า มีข้อตกลงเพื่อระงับข้อพิพาทที่มีอยู่แล้วหรือที่จะมีขึ้นภายหลัง ทั้งไม่ปรากฎมูลหนี้ใด ๆ ที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์ เอกสารหมาย จ.1 จึงไม่เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อความตามเอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องจำเลยรับฝากเงินจากนายสว่าง อินสถิตย์ เพื่อนำไปชำระให้แก่โ่จทก์ทั้งสามต่อมาจำเลยไปตกลงกับโจทก์ทั้งสามว่าจะชำระให้ในวันที่ 28 มีนาคม2526 จำเลยรับเงินไว้ในฐานะตัวแทนของนายสว่างเพื่อนำไปชำระให้โจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์และไม่ได้เป็นลูกหนี้โจทก์ การที่จำเลยไปตกลงว่าจะชำระเงินให้โจทก์ในวันใดเป็นการตกลงกำหนดวันชำระเงิน เป็นการกระทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในฐานะตัวแทนเมื่อถึงวันนัดจำเลยไม่ชำระเงิน โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต่อตัวการอย่างไร ก็คงเป็นเจ้าหนี้อยู่เช่นเดิม จำเลยไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว กรณีดังกล่าวโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นส่วนตัวศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share