คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2096/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522เป็นความผิดที่รัฐมีหน้าที่ดำเนินการกับผู้กระทำผิดผู้เสียหายซึ่งถูกจำเลยขับรถชนมิใช่ผู้เสียหายในความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าว การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ผู้เสียหายเข้าร่วมเป็นโจทก์เป็นการมิชอบ ศาลฎีกาให้ยกคำขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของผู้เสียหายเฉพาะข้อหาตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังชนผู้เสียหาย เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 157ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 จำเลยให้การปฏิเสธ ผู้เสียหายขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 43(4), 157 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนัก ให้จำคุก 3 เดือน จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นางสาวนิภาพร รุ่งเรืองศิรินันท์ เข้าร่วมเป็นโจทก์ในข้อหาตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ด้วยนั้น เห็นว่า ความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าวเป็นความผิดที่รัฐมีหน้าที่ดำเนินการกับผู้กระทำผิดนางสาวนิภาพรจึงมิใช่ผู้เสียหายในความผิดข้อหาดังกล่าวที่จะขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้
พิพากษายืน ให้ยกคำขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของนางสาวนิภาพรรุ่งเรืองศิรินนท์ เฉพาะข้อหาตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก”

Share