แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้นำยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาขายทอดตลาดเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาในคดีอื่น ย่อมยื่นคำร้องขอเฉลี่ยได้ แม้จะปรากฏว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้โอนที่ดินแปลงอื่นของตนให้แก่บุตรภายหลังคำพิพากษา แม้เป็นการทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ ซึ่งชอบที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจะไปว่ากล่าวฟ้องร้องต่างหาก ในชั้นนี้มีปัญหาว่าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาสามารถเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินของลูกหนี้ได้หรือไม่เท่านั้น
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์จำเลยทำสัญญายอมความกัน ศาลพิพากษาตามยอมโจทก์ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา จำเลยนำยึดที่ดินโฉนดที่ 5076 ของโจทก์และขายทอดตลาดได้เงิน 24,050 บาท
ก่อนวันขายทอดตลาด 2 วัน ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าตนเป็นเจ้าหนี้โจทก์ตามคำพิพากษา ขอรับส่วนเฉลี่ย
วันนัดพร้อม จำเลยแถลงว่าโจทก์ยังมีที่ดินอีก 2 โฉนด แต่โจทก์ได้โอนให้แก่บุตรของโจทก์ภายหลังที่ศาลพิพากษาคดีที่โจทก์จำเลยยอมความกันแล้ว และคัดค้านไม่ยอมให้ผู้ร้องรับส่วนเฉลี่ย สำหรับที่ดิน 2 โฉนดนี้โจทก์ยอมรับว่าได้โอนไปแล้วจริง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า การโอนของโจทก์ภายหลังที่เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบ ให้ยกคำร้องของผู้ร้องเสีย
ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ อนุญาตให้ผู้ร้องมีสิทธิได้รับส่วนเฉลี่ยในราคาทรัพย์ของโจทก์ที่จำเลยนำยึด
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ในขณะนี้โจทก์ไม่มีทรัพย์อื่นใดที่ผู้ร้องจะสามารถนำยึดเอามาชำระหนี้ของตนได้ นอกจากขอรับส่วนเฉลี่ยในทรัพย์ของโจทก์ผู้เป็นลูกหนี้จำเลยและผู้ร้อง ส่วนที่โจทก์โอนที่ดินให้บุตรโจทก์ไปแล้วนั้นเป็นการทำให้เจ้าหนี้เสียเปรียบเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งชอบจะไปว่ากล่าวฟ้องร้องกันต่างหาก ในชั้นนี้มีปัญหาเพียงว่า ผู้ร้องสามารถจะเอาชำระหนี้จากทรัพย์สินอื่น ๆ ของลูกหนี้ได้หรือไม่ เมื่อปรากฏว่าในขณะนี้โจทก์ไม่มีทรัพย์อื่นใดให้ผู้ร้องได้อีก สิทธิของผู้ร้องที่จะขอรับส่วนเฉลี่ยในทรัพย์รายที่จำเลยนำยึดย่อมมีขึ้น
พิพากษายืน