คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มอบที่ดินให้เจ้าหนี้ทำกินต่างดอกเบี้ยโดยทำสัญญากันเอง ไม่ได้จดทะเบียนแต่อย่างใด ย่อมไม่มีผลสมบูรณ์ที่จะใช้บังคับให้เกิดสิทธิยึดถือไว้ เมื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาคืน โดยขอชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เจ้าหนี้ต้องคืนที่ดินให้แก่เจ้าของกรรมสิทธิ์ไป
คำพิพากษาคดีอาญาศาลชั้นต้นที่ศาลสูงได้พิพากษากลับแล้วนั้นจะนำเอาข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดมาใช้ในคดีแพ่งไม่ได้
โจทก์ขอให้จำเลยรับชำระหนี้ 300 บาท และคืนนาให้โจทก์ จำเลยต่อสู้ว่ากู้กัน 1300 บาท ไม่ใช่ 300บาท ดังนี้ จำนวนหนี้ที่แท้จริงจะบังคับกันได้หรือไม่และจะเป็นจำนวนมากกว่า 300 บาทหรือเท่าใดนั้นจำเลยมิได้ฟ้องแย้งขอให้บังคับโจทก์ให้ใช้เงินอันจะต้องเสียค่าธรรมเนียมตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ศาลจึงไม่วินิจฉัยปัญหาเรื่องจำนวนหนี้ให้
(อ้างฎีกา1283/2480,231/2482)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า บิดาโจทก์กู้เงินจำเลยไป 300 บาท เอาที่นา 1 แปลงให้จำเลยทำกินต่างดอกเบี้ย บิดาโจทก์วายชนม์ โจทก์เป็นผู้รับมรดก ได้นำเงินไปชำระและขอรับนาคืน จำเลยไม่ยอมจึงขอให้ศาลบังคับ จำเลยต่อสู้ว่ากู้กัน 1,300 บาท ตามสัญญากู้ไม่ใช่ 300 บาท โจทก์เอาเงินมาให้ไม่ครบ จึงไม่ยอมให้ไถ่

โจทก์แถลงขออ้างเอกสารสัญญากู้ และขออ้างคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในคดีที่โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทำหนังสือปลอม โดยจำเลยทำ หรือแก้หนังสือกู้ของนายหรั่งบิดาโจทก์อันอยู่ในความยึดถือของจำเลยจาก 300 บาท เป็น 1,300 บาท ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย ศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้ยกฟ้องว่า โจทก์ไม่ระบุวันเดือนปี ที่กระทำผิด จำเลยไม่คัดค้าน โจทก์แถลงไม่ติดใจสืบพยานบุคคล จำเลยอ้างเอกสารและสืบพยาน 2 ปาก ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีที่บิดาโจทก์มอบที่ดินให้จำเลย โดยทำหนังสือสัญญากันเอง ไม่ได้จดทะเบียนแต่อย่างใด จึงไม่มีผลสมบูรณ์ที่จะใช้บังคับให้เกิดสิทธิยึดถือไว้ในเมื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ติดตามเอาคืน จำเลยต้องคืนที่ดินของโจทก์ ให้โจทก์ตามฟ้อง

ส่วนจำนวนหนี้เงินกู้นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า คำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีเรื่องก่อนที่ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษากลับเสียแล้วนั้น จะใช้ข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นชี้ไว้ในคดีอาญานั้นในคดีแพ่งเรื่องนี้ไม่ได้ ทั้งโจทก์มิได้อ้างพยานหลักฐานอื่นใดอีก ศาลต้องยกคำของโจทก์ในข้อนี้เสีย ในขณะเดียวกัน จำนวนหนี้ที่แท้จริงจะบังคับกันได้หรือไม่ และจะเป็นจำนวนมากกว่า 300 บาทหรือไม่นั้น จำเลยมิได้ฟ้องแย้ง ขอให้บังคับโจทก์ให้ใช้เงินอันจะต้องเสียค่าธรรมเนียม ศาลจึงไม่รับวินิจฉัยให้

พิพากษากลับ ให้จำเลยคืนนาให้โจทก์ แต่ไม่ตัดสิทธิที่จำเลยจะว่ากล่าวต่อไปในเรื่องหนี้สิน

Share