แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคสามขยายความมาตรา 69 วรรคสอง เฉพาะความผิดฐานจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 อันเป็น มอร์ฟีน ฝิ่น หรือโคคาอีนที่มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัม มิได้ขยายความมาตรา 69 วรรคหนึ่งด้วย
จำเลยมีฝิ่นไว้ในครอบครองหนัก 7.7 กรัม จึงต้องวางอัตราโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคหนึ่ง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 17, 69, 102
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 17, 69 ลงโทษตามมาตรา 69วรรคสาม จำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคหนึ่ง จำคุก 2 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าศาลจะวางโทษแก่จำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 69 วรรคหนึ่ง หรือวรรคสาม จึงจะถูกต้อง
เห็นว่า ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 69วรรคหนึ่งได้กำหนดอัตราโทษไว้สำหรับผู้ที่มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ส่วนวรรคสองกำหนดอัตราโทษสำหรับผู้จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภทดังกล่าว มีปัญหาว่าข้อความในวรรคสามนั้นขยายความในวรรคหนึ่งหรือวรรคสองถ้าแปลว่าข้อความวรรคสามนี้ขยายความวรรคหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าผู้ที่มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 เฉพาะมอร์ฟีนโคคาอีน รวมทั้งฝิ่นที่มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัมต้องวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสองแสนบาทเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราโทษของผู้ที่มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 คือเฮโรอีน ตามมาตรา 67 กำหนดให้จำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท จะเห็นได้ว่าอัตราโทษของผู้ที่มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ต่ำกว่าอัตราโทษของผู้ที่มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 2 จำพวกมอร์ฟีน โคคาอีน และฝิ่น ซึ่งน่าจะไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมายเพราะหลักเกณฑ์ในการกำหนดอัตราโทษน่าจะได้กำหนดอัตราโทษลดหลั่นกันลงตามความร้ายแรงของชนิดและประเภทของยาเสพติดให้โทษ กล่าวคือยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน อัตราโทษน่าจะสูงกว่ายาเสพติดประเภทอื่นๆ ด้วยเหตุผลดังกล่าว เห็นว่าข้อความในมาตรา 69 วรรคสามของพระราชบัญญัตินี้ขยายความในวรรคสองคือ บทบัญญัติมาตรา 69วรรคสามหมายความเฉพาะความผิดฐานจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งมอร์ฟีน โคคาอีน รวมทั้งฝิ่นที่มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัมเท่านั้น คดีนี้จำเลยมีฝิ่นไว้ในครอบครองหนัก 7.7 กรัม จึงต้องวางอัตราโทษตามพพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 69 วรรคหนึ่ง
พิพากษายืน.