คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 868/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานสรรพสามิตอำเภอ ไม่มีหน้าที่สืบเสาะไต่สวนหรือฟ้องคดีที่มีความผิดฐานเล่นการพนันด้วย จึงจะมีความผิดฐานช่วยเหลือผู้กระทำผิดฐานเล่นการพนันให้พ้นอาญา ตามมาตรา 142 ไม่ได้
สรรพสามิตอำเภอจับผู้เล่นการพนันมาแล้ว กลับช่วยเหลือโดยเอาขวดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่าพวกที่จับมามีสุราเถื่อนดังนี้มีผิดตามมาตรา 157,158
จำเลยกระทำหลักฐานเท็จ โดยเอาขวดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่าพวกผู้ต้องหาที่จำเลยจับมามีน้ำสุราเถื่อนผิดกฎหมายพนักงานสอบสวนหลงเชื่อทำการเปรียบเทียบปรับพวกผู้ต้องหาเสร็จไปชั้นอำเภอดังนี้ จำเลยมีความผิดตามมาตรา 160

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นสรรพสามิตอำเภอได้กระทำผิดกฎหมายหลายบทหลายกระทง คือจำเลยกับพวกได้จับกุมพวกเล่นการพนันไพ่ป๊อกแล้วเรียกเอาเงินจากพวกเล่นการพนันคนละ 100 บาท เพื่อจะช่วยให้พวกเล่นการพนันนี้พ้นอาญาฐานเล่นการพนัน แล้วจำเลยได้กระทำหลักฐานเท็จโดยเอาขวดบรรจุน้ำสุราเถื่อนไปแจ้งแก่พนักงานสอบสวนว่า พวกเล่นการพนันรายนี้ มีน้ำสุราเถื่อนผิดกฎหมาย พนักงานสอบสวนหลงเชื่อจึงทำการเปรียบเทียบปรับพวกเล่นการพนันรายนี้เสร็จไปชั้นอำเภอ จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118,137, 138, 142, 154, 157, 158, 160, 226

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา 157, 158, 160 กระทงหนึ่ง และมาตรา 226 อีกกระทงหนึ่ง ให้รวมกระทงโทษลงโทษ 3 ปี

จำเลยฎีกา

คดีมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะข้อหาเรื่องกระทำพยานหลักฐานพยานเท็จและแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความเท็จ ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงไม่ได้ความว่า จำเลยผู้เป็นเจ้าพนักงานสรรพสามิตอำเภอมีหน้าที่สืบเสาะไต่สวนหรือฟ้องคดีที่มีความผิดฐานเล่นการพนันด้วย จำเลยจึงไม่มีผิดตามมาตรา 142 และคดีไม่ได้ความว่า จำเลยได้บอกให้เจ้าพนักงานผู้มีตำแหน่งหน้าที่จดข้อความซึ่งรู้อยู่ว่าเป็นเนื้อความเท็จลงหนังสืออย่างใด จึงยังไม่ผิดตามมาตรา 226

จึงพิพากษาแก้ว่า จำเลยผิดตามมาตรา 157, 158 และ 160 จำคุก 2 ปี

Share