คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายซึ่งวิกลจริตขึ้นไปบนเรือนจำเลย หญิงซึ่งอยู่บนเรือนคนเดียวเข้าใจว่าเป็นคนร้าย จึงร้องว่าขโมยให้ชาวบ้านช่วย มีชาวบ้าน 30-40 คนรวมทั้งจำเลยมีอาวุธปืน 6-7 กระบอกไล่ตามยิงผู้ตาย ผู้ตายหนีไปแอบจอมปลวก จำเลยกับคนอื่น 2 คนยิงไปยังผู้ตายคนละนัด พอสิ้นเสียงปืนปรากฏว่า ผู้ตายถูกกระสุนปืนล้มลงตาย โดยไม่ปรากฏว่าตายเพราะถูกกระสุนปืนของใคร ดังนี้ ถือว่าจำเลยผิดเพียงฐานพยายามฆ่าผู้ตาย และไม่ถือว่าจำเลยและผู้ที่ยิง ตลอดจนชาวบ้านที่ไล่ติดตามนั้นสมคบกัน

ย่อยาว

ความว่า ส.เป็นคนวิกลจริตเคยไปเที่ยวไหน ๆ เสมอ ๆ วันเกิดเหตุกลางคืนดึกตอนไก่ขัน ส.ออกจากบ้านไปกับบุตรซึ่งเป็นเด็กชาย 2 คน มี มีด, แห ป่านถักแห และเงินไปด้วย ไปแวะพักที่ศาลา รุ่งเช้าทั้ง 3 คนเข้าไปในหมู่บ้านเพื่อขอข้าวกิน และไปที่เรือนจำเลยพบแต่หญิงอยู่บนเรือนคนเดียว หญิงนั้นกลัววิ่งหนีลงเรือนและร้องว่าขโมยช่วยด้วย ส.จึงพาบุตรหนีไปแอบข้างจอมปลวกใต้ต้นข่อยมีชาวบ้านไล่ติดตามไป 30-40 คนรวมทั้งนายคำจำเลย มีอาวุธปืนไป 6-7 กระบอก ไล่ยิง ส. นายคำจำเลยและคนอื่นอีก 2 คนยิ่ง ส. ไปคนละ 1 นัด ส.ถูกกระสุนปืนล้มลงตาย โจทก์ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249-63 นายคำจำเลยให้การปฏิเสธ และคดีมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะนายคำจำเลย

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกันว่า นายคำจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249 จำคุก 15 ปี ลดกึ่งหนึ่งคงจำคุก 7 ปีครึ่ง ริบปืนของกลางยกฟ้องจำเลยอื่น

นายคำจำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ไม่ปรากฏว่า กระสุนปืนของใครต้อง ส. พอสิ้นเสียงปืนก็เห็นส.ล้มลงตาย จะว่าชาวบ้าน 30-40 คนหรือเฉพาะคนที่ยิงปืนสมคบกันยิง ส.ก็ไม่ได้ เพราะต่างคนต่างเข้าใจว่า ส. เป็นผู้ร้ายต่างคนต่างไล่ติดตามไป การกระทำของใครจึงควรเป็นของคนนั้น ส.มิได้แสดงกิริยาอาการจะต่อสู้หรือขัดขวางจำเลย นายคำจำเลยจะอ้างเหตุตามกฎหมายเป็นข้อแก้ตัวไม่ได้ แต่เพราะเหตุที่ไม่ปรากฏว่า กระสุนปืนที่นายคำจำเลยยิงจะต้อง ส.และเป็นเหตุให้ ส. ตายเพราะการกระทำของนายคำจำเลยหรือไม่ นายคำจำเลยจึงมีความผิดเพียงฐานพยายามฆ่า ส. พิพากษาแก้ให้จำคุกนายคำจำเลย 10 ปี ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249, 60 ลดกึ่งหนึ่งคงเหลือ 5 ปีนอกนั้นยืน

Share