คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลพิพากษาแบ่งที่ดินให้โจทก์จำเลยคนละครึ่ง ถ้าแบ่งไม่ตกลงกัน ก็ให้ประมูลหรือขายทอดตลาด โจทก์จำเลยตกลงกันว่าโจทก์เลือกเอาที่ดินด้านตะวันออก จำเลยเอาด้านตะวันตกคนละครึ่ง แต่ไม่ได้ตกลงกันให้แน่นอนว่าจะตั้งต้นวัดแบ่งจากจุดใดจุดหนึ่งของที่ดินด้านเหนือหรือด้านใต้ ดังนี้ เมื่อการรังวัดแบ่งแยกของเจ้าพนักงานไม่เป็นที่พึงพอใจของคู่ความหรือพอใจแต่ฝ่ายเดียวเช่นนี้ ต้องฟังว่าการแบ่งที่ดินไม่ตกลงกันตามคำพิพากษา ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอถอนข้อตกลงที่ไม่แน่นอนนั้น และขอให้ประมูลหรือขายทอดตลาดได้

ย่อยาว

คดีนี้ มีปัญหาในชั้นบังคับคดี เนื่องจากโจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดที่ 190 ร่วมกัน ศาลพิพากษาว่าให้โจทก์จำเลยจัดการนำเจ้าพนักงานที่ดินมารังวัด แบ่งแยกที่พิพาทออกให้โจทก์จำเลยคนละครึ่ง ถ้าการแบ่งไม่ตกลงกัน ก็ให้ประมูลหรือขายทอดตลาดเอาเงินสุทธิแบ่งให้โจทก์จำเลยฝ่ายละครึ่ง

ต่อมาคู่ความร้องต่อศาลตามรายงานพิจารณาลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2491 ว่า โจทก์เลือกเอาที่ดินด้านตะวันออก จำเลยได้ทางตะวันตกศาลสั่งอนุญาต ในระหว่างที่มีการแบ่งแยกที่ดินที่เจ้าพนักงานไปทำการรังวัดแบ่งแยกอยู่ ยังไม่ได้ส่งแผนที่การแบ่งแยกมาศาลนั้นโจทก์เห็นว่าจะเป็นการเสียหายแก่โจทก์ ๆ จึงยื่นคำร้องต่อศาลขอถอนข้อตกลงแบ่งแยกที่ดินดังกล่าวเสีย ขอให้ศาลสั่งประมูลหรือขายทอดตลาดตามคำพิพากษาต่อไป ปรากฏข้อเท็จจริงที่คู่ความรับกันว่า เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินเสร็จแล้วจริงแต่ยังมิได้ส่งมาศาล

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกัน ให้เอาที่พิพาทออกประมูลหรือขายทอดตลาด

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อตกลงระหว่างโจทก์จำเลย ตามรายงานพิจารณาของศาลลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2491 ยังไม่เป็นการตกลงแน่นอนว่าจะตั้งต้นวัดแบ่งจากจุดหนึ่งจุดใดของที่ดินด้านทิศเหนือหรือทิศใต้เมื่อการรังวัดแบ่งแยกของเจ้าพนักงานไม่เป็นที่พอใจของคู่ความทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายเดียว จะถือว่าการแบ่งที่ดินตกลงกันเสร็จแล้วหาได้ไม่ ต้องฟังว่าการแบ่งที่ดินไม่ตกลงกันตามคำพิพากษา โจทก์จึงขอถอนข้อตกลงที่ไม่แน่นอนนั้นได้

จึงพิพากษายืน

Share