แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับพวกไปที่เรือนผู้ตาย ชวนผู้ตายพูดคุยด้วย และเมื่อก่อนจะลงมือฆ่ามีการพูดข้อความประโยคหนึ่ง แล้วจำเลยกับพวกต่างลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน ชักปืนสั้นออกมายิงผู้ตาย แสดงว่ามีแผนนัดหมายกันมาก่อนกระทำการ ถือว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ร่วมกันจ้าง วาน หรือใช้จำเลยที่ ๓, ๔,๕, ๖ กับพวกที่หลบหนีให้ฆ่านายฉลวยสามีจำเลยที่ ๑ โดยเจตนาฆ่าและไตร่ตรองไว้ก่อน และจำเลยที่ ๓, ๔, ๕, ๖ กับพวกได้ร่วมกันใช้ปืนยิงนายฉลวยถึงตายสมเจตนา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙ ฯลฯ
จำเลยทุกคนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ ๓, ๔, ๕ ผิดตามมาตรา ๒๘๙ ฯลฯ
โจทก์ร่วมอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยที่ ๑, ๒ และ ๖ ส่วนจำเลยที่ ๓, ๔, ๕อุทธรณ์ให้ยกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๓, ๔, ๕ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๓, ๔, ๕ ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงผู้ตายจริง และเห็นว่าการที่จำเลยที่ ๓, ๔, ๕ กับพวกอีกคนหนึ่งต่างสวมเสื้อปล่อยชายปิดบังการพกปืนสั้นของตนไว้ พากันขึ้นไปบนเรือนผู้ตายพูดจาปรารภขอเช่าหรือขอซื้อไร่ของผู้ตายอ้างว่าไม่มีที่ทำกิน ประกอบกับก่อนลงมือฆ่าผู้ตายมีการพูดว่า “อ้ายพวกนี้นั่งเงียบเรียบร้อยจริงฮิ” ทันใดจำเลยที่ ๓, ๔, ๕กับพวกอีกคนหนึ่งต่างก็ลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน ชักปืนสั้นออกมายิงผู้ตายแสดงว่ามีแผนนัดหมายกันมาก่อนกระทำการ ถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
พิพากษายืน