แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้รับรองให้ฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาในศาลชั้นต้นสั่งคำร้องว่า ไม่เห็นสมควรให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นสั่งฎีกาว่า ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดีไม่รับรอง ให้โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่รับฎีกา คืนค่าขึ้นศาล
โจทก์เห็นว่า ฎีกาโจทก์โดยเฉพาะแผ่นที่ 3 ด้านหลัง เป็นฎีกาโต้แย้งว่าศาลล่างวินิจฉัยฝ่าฝืนพยานหลักฐานในท้องสำนวน และแผ่นที่ 4 ด้านหลังเป็นเรื่องการตีความตามเอกสารหมาย จ.6 เป็นปัญหาข้อกฎหมาย และตามฟ้องข้อ 2.4,2.5 หน้าที่ 7-8 เป็นเรื่องตัวแทนเชิด ซึ่งโจทก์เห็นว่าไม่จำต้องมีเอกสารสนับสนุน ฎีกาโจทก์โดยรวมแล้วจึงเป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่ง ให้รับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 85,600 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้รับรองให้ฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาในศาลชั้นต้นและศาลชั้นต้น มีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 83,82 แผ่นที่ 2)
โจทก์จึงยื่นคำร้องนี้ ศาลชั้นต้นสั่งในคำร้องว่าโจทก์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาเกินกำหนด 15 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ให้ส่งคำร้อง และสำนวนให้ศาลฎีกาเพื่อพิจารณาสั่ง (อันดับ 92)
คำสั่ง
โจทก์ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาเกินกำหนด 15 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 234 ประกอบด้วยมาตรา 247 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ