คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 861/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การปลอมตั๋วรถไฟก็มีบัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้โดยเฉพาะในมาตรา 217 ความผิดของจำเลยในประเภทดังกล่าวไม่อยู่ในความประสงค์ของมาตรา 225
ทรัพย์สินหรือราคาที่อัยการจะเรียกแทนผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 43 ต้องเป็นทรัพย์สินหรือราคาที่แท้จริงแห่งทรัพย์สินที่ศูนย์เสียไปเนื่องจากการกระทำผิดดังกำหนดไว้นั้น

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องว่าจำเลยเป็นคนการรายวันขององค์การรถไฟ จำเลยทำผิดกฎหมายหลายกะทงคือ บังอาจลักตั๋วรถไฟชนิดบางสำหรับเขียนข้อความจำหน่ายแก่สาธารณชน ซึ่งอยู่ในความดูแลของนายกระจ่างไป ๑ เล่ม จำเลยบังอาจปลอมตั๋วที่จำเลยลักมานั้นแล้วจำหน่ายให้แก่ผู้โดยสารรถไฟนายกระจ่างต้องรับผิดชอบจ่ายเงินให้แก่องค์การรถไฟไทยสำหรับตั๋วที่หายเป็นเงิน ๑๐,๑๓๒ บาท ๕๐ สตางค์ เหตุเกิดที่ตำบลหับกฤช อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๙๔,๒๑๗,๒๒๒,๒๒๓,๒๒๔,๒๒๕, และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๗ ฉบับที่ ๕ มาตรา ๓ และให้ใช้ราคาตั๋วที่หาย ๑๐,๑๓๒ บาท ๕๐ สตางค์ แก่นายกระจ่าง
จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำผิดตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นสืบพะยานประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้วเห็นว่า ตั๋วบางตามฟ้องไม่ใช่หนังสือสำคัญและไม่ใช่หนังสือราชการ การกระทำของจำเลยไม่เข้าเกณฑ์มาตรา ๒๑๗ เพราะจะต้องประกอบด้วยเจตนาที่จะใช้เป็นตั๋วที่มีราคาสูงกว่าราคาที่แท้จริง แต่ข้อเท็จจริงไม่ปรากฎเช่นนี้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๒๙๔,๒๒๓, ให้รวมกะทงลงโทษจำคุก ๓ ปี ลดฐานปราณีคงจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ให้จำเลยใช้เงิน ๑๐,๑๓๒ บาท ๕๐ สตางค์แก่นายกระจ่างด้วย
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานปลอมตั๋วรถไฟและปลอมหนังสือสำคัญในราชการตามมาตรา ๒๑๗,๒๒๕ อีกกะทงหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่าตั๋วชนิดรถไฟและปลอมหนังสือสำคัญในราชการตามมาตรา ๒๑๗,๒๒๕, อีกกะทงหนึ่ง
ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับศาลชั้นต้นว่าตั๋วชนิดนี้ไม่ใช่หนังสือสำคัญหรือหนังสือราชการ แต่ที่จำเลยปลอมเป็นตั๋วรถไฟนั้นต้องมีความผิดตามมาตรา ๒๑๗ ด้วย ส่วนค่าเสียหายในคดีนี้ไม่ใช่ราคาทรัพย์ที่แท้จริงที่จำเลยลักไป อัยการไม่มีอำนาจฟ้องแทนผู้เสียหายตาม ป.วิ.อาญา มาตรา ๒๙๔ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๙๔,๒๒๓, และ ๒๔๗ ให้รวมกะทงลงโทษจำคุก ๓ ปี ลดฐานปราณี คงจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ค่าเสียหายที่โจทก์ขอให้ยกเสีย
โจทก์ฎีกาขอให้ขับไล่จำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๒๕ ฐานปลอมหนังสือสำคัญในราชการ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยปลอมตั๋วรถไฟซึ่งมีกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๑๗ บัญญัติความผิดและกำหนดโทษไว้โดยตรง ศาลอุทธรณ์ก็ลงโทษตามนี้แล้ว ความผิดของจำเลยจึงไม่ต้องด้วยมาตรา ๒๒๕ ส่วนค่าเสียหายที่นายสถานีจะต้องใช้ให้การรถไฟตามระเบียนไม่ใช่เป็นราคาทรัพย์ซึ่งถูกจำเลยลักโดยแท้จริง อัยการไม่มีอำนาจฟ้องขอให้ใช้เงินจำนวนนี้แก่ผู้เสียหาย
พิพากษายืน

Share