คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 853/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ซึ่งไม่มีฝ่ายใดฎีกาคัดค้านและไม่มีทางใดที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฉะบับนั้นได้ ต้องถือว่าถึงที่สุด เมื่ออ่านให้คู่ความฟังแล้ว
ในคดีความผิดส่วนตัวเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยแล้ว ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอถอนคำร้อง แต่คดีไม่มีการยื่นฎีกานั้น ศาลจะสั่งให้คดีระงับไม่ได้ โดยถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว

ย่อยาว

ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้จำคุกจำเลย ๑ ปี ฐานฉ้อโกงตาม ก.ม.อาญา ม. ๓๐๔
เมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้โจทก์จำเลยฟังวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๔๘๙ ในวันเดียวกันนั้นผู้เสียหายยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ ไม่ติดใจเอาโทษจำเลย
ศาลชั้นต้นสอบคู่ความ ๆ แถลงว่าไม่คัดค้านสุดแท้แต่ศาลจะสั่ง ศาลชั้นต้นจึงสั่งให้จำหน่ายคดี เพราะผู้เสียหายและจำเลยยอมความกันก่อนคดีถึงที่สุด
ศาลอุทธรณ์ เห็นว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อ่านแล้วย่อมถึงที่สุดแต่วันอ่าน เพราะคดีไม่มีฎีกา จึงให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฉบับนั้นไม่มีฝ่ายใดยืนฎีกาคัดคาน และไม่มีทางใดที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฉะบับนั้นได้ ต้องวินิฉัจว่า คดีถึงที่สุดแล้ว จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลย

Share