คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 848/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขายหุ้นพิพาทเป็นการแสดงเจตนาลวงด้วยสมรู้กันในระหว่างผู้โอนกับผู้รับโอน สัญญาซื้อขายหุ้นจึงเป็นโมฆะ และการที่ผู้ร้องรับโอนหุ้นพิพาทจากผู้ถือหุ้นเดิมผู้โอน โดยบริษัทจำเลยไม่รู้เห็นด้วยกับการแสดงเจตนาลวง ถือว่าบริษัทจำเลยรับจดแจ้งการโอนหุ้นโดยสุจริต ทำให้บริษัทจำเลยไม่อาจฟ้องเรียกมูลค่าหุ้นในส่วนที่ขาดจากผู้โอนได้ เป็นความเสียหายของบริษัทจำเลยอันเกิดแต่การแสดงเจตนาลวงนั้น การแสดงเจตนาลวงที่ทำให้สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะนี้จึงไม่อาจยกขึ้นต่อสู้บริษัทจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 118 วรรคแรก ผู้ร้องต้องรับผิดในมูลค่าหุ้นที่ค้างชำระ บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับรองขึ้นอันถือได้ว่าเป็นเอกสารมหาชน ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง เป็นหน้าที่ของผู้ร้องต้องนำสืบว่ามีการชำระมูลค่าของหุ้นพิพาทเต็มแล้ว.

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า หุ้น ใน บริษัทจำเลยที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แจ้งให้ผู้ร้องชำระค่าหุ้นที่ค้างนั้น เป็นของนางกลิ่นขจร รักวงษ์ ผู้ร้องเป็นผู้ถือแทน และมีการชำระค่าหุ้นครบถ้วนแล้วขอให้ยกคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ยืนยัน ให้ผู้ร้องชำระค่าหุ้นดังกล่าว
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์คัดค้านว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นดังกล่าวและยังชำระค่าหุ้นไม่ครบ ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ผู้ร้องไม่ได้รับโอนหุ้นพิพาทมาจากนางกลิ่นขจร รักวงษ์ เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม 2528 ดังปรากฎตามหนังสือสัญญาโอนหุ้นของบริษัทจำเลยเอกสารหมาย ค.1 โดยตามหนังสือสัญญาโอนหุ้น นี้ระบุว่าเป็นการโอนโดยการซื้อขาย รวมเป็นเงินจำนวน 62,500 บาท ที่ผู้ร้องกล่าวอ้างและนำสืบว่า การโอนหุ้นให้กันนี้แท้จริงเป็นเพียงโอนให้ถือแทนเท่านั้น มิใช่เป็นการโอนให้จริงโดยการซื้อขาย เหตุที่ต้องโอนให้ถือแทนเพราะนางกลิ่นขจรได้เป็นกรรมการของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์มหานครทรัสต์ จำกัดจึงต้องโอนเพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้นแม้ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่ผู้ร้องอ้าง ก็เป็นการกล่าวอ้าง ว่าการซื้อขายหุ้นพิพาทตามหนังสือสัญญาเอกสารหมาย ค.1 เป็นการแสดงเจตนาลวงด้วยสมรู้กันในระหว่างผู้ร้องกับนางกลิ่นขจร สัญญาซื้อขายนี้จึงเป็นโมฆะ แต่ทางนำสืบของทั้งสองฝ่ายไม่ปรากฏว่าบริษัทจำเลยได้รู้ด้วยกับการแสดงเจตนาลวงนั้น ต้องถือว่าบริษัทจำเลยได้ทำการรับจดแจ้งการโอนหุ้นลงในทะเบียนผู้ถือหุ้นตามสัญญาซื้อขายโดยสุจริต การที่ผู้ร้องโอนหุ้นพิพาทจากนางกลิ่นขจรโดยซื้อขายตามเอกสารหมาย ค.1 ทำให้บริษัทจำเลยไม่อาจฟ้องเรียกมูลค่าหุ้นในส่วนที่ขาดจากนางกลิ่นขจรได้ตามหลักฐานที่ปรากฎ เป็นความเสียหายของบริษัทจำเลยอันเกิดแต่การแสดงเจตนาลวงนั้น การแสดงเจตนาลวงที่ทำให้สัญญาซื้อขายเป็นโมฆะนี้จึงไม่อาจยกขึ้นต่อสู้บริษัทจำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 118 วรรคแรก ผู้ร้องต้องรับผิดในมูลค่าหุ้นที่ค้างชำระ
ตามบัญชีรายชื่อผู้ ถือหุ้นของบริษัทจำเลย ในวันประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2528 ซึ่งเป็นเอกสารฉบับล่าสุดที่บริษัทจำเลยนำส่งสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท กรุงเทพมหานครตามเอกสารหมาย ค.2 ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับรองขึ้นอันถือได้ว่าเป็นเอกสารมหาชน ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 127 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้องเป็นหน้าที่ของผู้ร้องต้องนำสืบว่ามีการชำระมูลค่าของหุ้น พิพาทเต็มแล้ว.

Share