คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 384/2534

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

สถานที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ที่หลายคนเข้าออกได้ จึงเป็นการไม่แน่นอนว่าเฮโรอีนเป็นของจำเลยเท่านั้น อาจเป็นของบุคคลอื่นก็ได้ คดียังเป็นที่สงสัยตามสมควรที่จะพิพากษายกฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 67, 102 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 4 ประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2522) เรื่องระบุชื่อและประเภทยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ลงวันที่ 17 กันยายน2522 ข้อ 1(1) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ริบเฮโรอีนของกลางให้เพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมาย และนับโทษจำคุกของจำเลยต่อจากโทษจำคุกในคดีอาญา หมายเลขแดงที่ 7325/2530 ของศาลชั้นต้นด้วยจำเลยให้การปฏิเสธ แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันกับจำเลยคดีหมายเลขแดงที่ 7325/2530 ของศาลชั้นต้น และกำลังรับโทษจำคุกตามคำพิพากษาคดีดังกล่าว ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15, 67, 102ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 92 ให้จำคุก 2 ปี 8 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมลดโทษหนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปีนับโทษจำคุกต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่7325/2530 ของศาลชั้นต้น ริบเฮโรอีนของกลาง จำเลยอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ เฮโรอีนของกลางมีไว้เป็นความผิดจึงให้ริบ โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาว่าจำเลยได้กระทำผิดดังโจทก์ฟ้องหรือไม่ ปัญหานี้ โจทก์มีพยานคือนายจรูญ ไทรงามกับนายประคอง เรือนอยู่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เบิกความว่า ได้ค้นพบเฮโรอีนซุกซ่อนไว้ในลิ้นชักห้องตัดผมซึ่งจำเลยเป็นหัวหน้าช่างตัดผมของเรือนจำ ทำหน้าที่ควบคุมดูแลห้องตัดผมและถือกุญแจห้องดังกล่าว จำเลยนำสืบว่า กุญแจสำหรับเปิดลิ้นชักใส่เครื่องมือแต่งผมมี 2 ชุดด้วยกัน ชุดหนึ่งอยู่ที่ตัวจำเลย และชุดหนึ่งอยู่ที่ส่วนกลาง ห้องแต่งผมมีช่าง2 คน มีเครื่องมือตัดผม 3 ชุด มีลิ้นชักอยู่ที่เคาน์เตอร์รวม5 ลิ้นชัก ลิ้นชักที่ 1, 3, 5 เก็บเครื่องมือตัดผม ลิ้นชักที่ 2, 4สำหรับเก็บของไม่มีค่า ซึ่งสองลิ้นชักนี้ไม่ได้ล็อกกุญแจ ลิ้นชักที่ 1, 3, 5 ต้องล็อกกุญแจไว้เสมอเนื่องจากเก็บรักษาเครื่องมือตัดผม ลักษณะของห้องตัดผมและลิ้นชักปรากฏตามเอกสารหมาย ล.1คนตัดผมมีจำนวนมาก เฮโรอีนไม่ใช่ของจำเลย และพยานโจทก์ผู้ค้นพบเฮโรอีนมีเรื่องโกรธเคืองกับจำเลย เห็นว่า ที่เกิดเหตุเป็นห้องตัดผม ซึ่งมีผู้คนเข้าออกวันหนึ่ง ๆ เป็นจำนวนหลายคนลิ้นชักที่พยานโจทก์พบเฮโรอีนก็เป็นลิ้นชักหมายเลข 2 ซึ่งจำเลยนำสืบว่าไม่ได้ล็อกกุญแจ ช่างตัดผมหรือคนตัดผมคนหนึ่งคนใดนำเข้าไปซ่อนไว้ก็อาจทำได้ กุญแจสำหรับเปิดลิ้นชักใส่เครื่องมือตัดผมก็มิได้มีแต่ของที่จำเลยถือเท่านั้น ส่วนกลางก็มีอีก 1 ชุดซึ่งบุคคลอื่นก็อาจเปิดห้องตัดผมได้ ไม่ใช่เพียงจำเลยเท่านั้นเมื่อสภาพที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ที่หลายคนเข้าออกได้ ก็เป็นการไม่แน่นอนลงไปว่า เฮโรอีนเป็นของจำเลยเท่านั้น อาจเป็นของบุคคลอื่นก็ได้ คดียังเป็นที่สงสัยตามสมควร ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์มาชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share