แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่จำเลยมีไม้ไว้และกระทำผิดฐานเคลื่อนย้ายโดยมิได้มีใบเบิกทางกำกับย่อมสั่งริบไม้ของกลางไม่ได้ เพราะไม่เป็นเรื่องที่จำเลยได้มาหรือมีไม้ไว้เนื่องจากการกระทำผิด ในอันที่ศาลจะสั่งริบไม้เสียได้ตามมาตรา 74 แห่งพ.ร.บ.ป่าไม้ 2484
การขนลากไม้กระดานที่เลื่อยจากไม้ตับและไม่มีใบเบิกทางกำกับเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 39,71
การเคลื่อนย้ายไม้แปรรูปจากตำบลหนึ่งไปยังอีกตำบลหนึ่งซึ่งไม่เข้าอยู่ในข้อยกเว้นตามกฎกระทรวงเกษตรธิการ (ฉบับที่ 4) ต้องมีใบเบิกทางกำกับ
ย่อยาว
ความว่า จำเลยได้นำไม้สักอันเป็นไม้ประเภทหวงห้ามเคลื่อนที่จากตำบลในเมือง ไปยังตำบลวังพิณพาทย์โดยไม่มีใบเบิกทางของเจ้าหน้าที่กำกับไปด้วย โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยาน แล้ววินิจฉัยว่า จำเลยไม่มีความผิด แล้วยกฟ้องคืนไม้ของกลางให้จำเลย
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 39, 71 และกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 59 คงปรับ 15 บาท ไม้ของกลางไม่ริบ
โจทก์ฎีกา ขอให้ริบไม้ของกลาง
จำเลยฎีกา ขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานนำไม้สักหวงห้ามเคลื่อนที่ไปและมิได้มีใบเบิกทางกำกับ มิได้ตั้งข้อหาว่าไม้เหล่านี้เป็นของได้มาหรือมีไว้เนื่องจากการกระทำผิดใด ๆในอันที่ศาลจะสั่งริบตามพระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 74 ฎีกาของโจทก์ที่ขอให้ริบไม้ของกลางจึงตกไป ข้อที่จำเลยขอให้ยกฟ้องนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยรับแล้วว่า ได้ขนลากไม้กระดานนี้ไป ซึ่งเป็นไม้ที่จำเลยเลื่อยจากไม้ตับและจำเลยไม่มีใบเบิกทางกำกับการกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ 2484 มาตรา 39, 71และการที่จำเลยเคลื่อนย้ายไม้จากตำบลหนึ่งไปยังอีกตำบลหนึ่ง แม้จะแปรรูปแล้วก็ดี ตามกฎกระทรวงเกษตราธิการ (ฉบับที่ 4) ที่ว่าด้วยการเคลื่อนย้ายไม้ ก็ได้กล่าวถึงไม้แปรรูปไว้ด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน