แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่อนุญาตให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจค้นในที่รโหฐานได้ โดยไม่ต้องมีหมายค้น เพราะปรากฏความผิดซึ่งหน้ากำลังกระทำลงในที่รโหฐาน นั้น มุ่งหมาย เฉพาะกรณีที่ความผิดกำลังกระทำอยู่ต่อหน้าพนักงานผู้จะเข้าค้นนั้นเอง ถ้าเป็นเรื่องที่ได้รับคำบอกเล่าจากผู้อื่นอีกต่อหนึ่งแล้วก็ไม่เข้าในข้อยกเว้นข้อนี้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นายรอด เจริญสุข กำนันตำบลทุ่งลูกนก ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านอันเป็นเคหะสถานของจำเลย โดยทราบจากสารวัตรกำนันว่าจำเลยทำการตั้งกล้องตะเกียงสูบฝิ่นไม่ได้รับอนุญาต จำเลยบังอาจทำการขัดขวางโดยปิดกั้นและดันประตูไม่ยอมให้เข้าทำการตรวจค้น ขอให้ลงโทษตามกฎหมายอาญา มาตรา 119
จำเลยให้การรับตามฟ้อง แต่แถลงเหตุต่อสู้ว่า นายรอดกำนันไม่แสดงบุริมสิทธิก่อนตรวจค้นและไม่มีหมายค้น
ศาลสอบโจทก์ ๆ แถลงว่านายรอดกำนันไม่มีหมายค้นจริง แต่ได้ใช้สารวัตรกำนันไปดูก่อนแล้ว
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าการที่กำนันให้สารวัตรไปดูแล้วกลับมาบอก ก็ควรถือได้ว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า การค้นของกำนันจึงชอบด้วยกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้น้อยที่ไม่มีอำนาจออกหมายค้นจะเข้าค้นได้ ก็เฉพาะในกรณียกเว้น 5 ประการตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 92 เท่านั้น ข้อยกเว้นข้อหนึ่งที่ว่า”เมื่อปรากฏความผิดซึ่งหน้ากำลังกระทำลงในที่รโหฐาน” นั้นเห็นได้ว่ามุ่งหมายเฉพาะกรณีที่ความผิดกำลังกระทำอยู่ต่อหน้าพนักงานผู้จะเข้าค้นนั้นเอง แต่คดีนี้ กำนันได้รับคำบอกเล่าจากสารวัตรกำนันอีกต่อหนึ่ง จึงไม่ตรงกับข้อยกเว้น จึงพิพากษายืน