แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายถือปืนยาวแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ 1 เกิดโต้เถียงกันผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากขึ้นลำกล้องหันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ 1จำเลยที่ 1 แย่งปืนและเอาขวานฟันผู้ตายหลายที และเรียกจำเลยที่ 2 มาช่วย จำเลยที่ 2 ใช้ดาบฟันผู้ตายหลายที ผู้ตายล้มลงสักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล 38 แผล ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายของจำเลย ย่อมมีผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249,53
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานทำร้ายนายคนถึงตายตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 249, 250, 63 จำเลยให้การภาคเสธ ต่อสู้ว่าจำเลยได้ทำร้ายนายคนเพื่อป้องกันตัว เพราะนายคนบุกรุกพาอาวุธปืนจะไปยิงจำเลยถึงบนเรือน ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทำร้ายนายคนเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา 249 ประกอบด้วยมาตรา 53, 60 ให้จำคุกคนละ 5 ปี ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่ากระทำของจำเลยเป็นการป้องกันไม่เกินสมควรแก่เหตุ พิพากษายกฟ้อง คืนของกลาง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ผู้ตายได้ถือปืนแบบญี่ปุ่นขึ้นไปบนเรือนจำเลยที่ 1 เกิดโต้เถียงกัน ผู้ตายยกปืนขึ้นและกระชากลูกเลื่อนเอาลูกขึ้นลำกล้องหันปากกระบอกปืนไปทางจำเลยที่ 1 ๆ แย่งปืนและเอาขวานฟันหลายที แล้วเรียกจำเลยที่ 2 มาช่วยจำเลยที่ 2 เอาดาบฟันไปหลายที ปืนหลุกจากมือนายคนสักครู่ก็ขาดใจตาย มีบาดแผล 38 แห่ง และเห็นว่าอาวุธปืนยาวนั้น ถ้าได้เข้ากระชั้นยื้อแย่งกันแล้ว ก็ยากที่จะใช้ปืนนั้นยิงให้ถูกอีกฝ่ายหนึ่งได้ จำเลยที่ 1 ได้โดดเข้าแย่งปืนแล้ว ใช้ขวานฟันนายคนเป็นการสมควรแต่ในตอนที่จำเลยที่ 2 เข้ามาช่วยจำเลยที่ 1 รุมใช้ดาบฟันอย่างไม่ยับยั้ง จนนายคนมีบาดแผล 38 แผล เป็นแผลฉกรรจ์ ๆ อยู่เป็นอันมาก จนนายคนล้มลงขาดใจตายในที่เกิดเหตุ เป็นการกระทำเกินกว่าความจำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและร่างกายของจำเลย ๆ ทั้งสองมีความผิดตามมาตรา 249 ประกอบด้วยมาตรา 53 พิพากษาแก้ให้จำคุกจำเลยคนละ 1 ปี ของกลางไม่ต้องริบ