แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ถือไม้ตะพดยืนคุมเชิงอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องเล่นการพนัน และพูดอ้างอำนาจนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่มาขู่เข็ญตำรวจที่มาทำการจับกุม มิให้ทำการจับกุมผู้เล่นการพนัน ดังนี้เป็นความผิดตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 119
คู่ความฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความก็ไม่ได้คัดค้านอย่างใด ดังนี้ ศาลฎีกาต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายได้ยอมรับข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยชี้ขาดของศาลอุทธรณ์เป็นยุติแล้ว
ย่อยาว
คดีมาสู่ศาลฎีกา เฉพาะแต่คดีส่วนตัวนายชุน จำเลย ซึ่งศาลชั้นต้นวินิจฉัยชี้ขาดข้อเท็จจริง เมื่อตำรวจไปจับผู้ลักเล่นการพนันที่บ้านนายเซง นายชุน จำเลยได้ถือไม้ตะพดคุมเชิงอยู่ที่ประตูทางเข้าห้องเล่นการพนัน และพูดจาอ้างอำนาจนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ มาขู่เข็ญมิให้ตำรวจทำการจับกุม เป็นการขัดขวางเจ้าพนักงานและเป็นการช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้หลบหนีไปได้มีความผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 119-154 พิพากษาลงโทษตามมาตรา 154 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 3 เดือน
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงในเรื่องขัดขวาง เจ้าพนักงานตามศาลชั้นต้น แต่ข้อช่วยให้ผู้กระทำผิดหนี ฟังว่ายังไม่พอจะชี้ว่าเป็นผลเนื่องจากการขัดขวางของนายชุนจำเลย ยังไม่เป็นผิดในฐานนี้ จึงพิพากษาแก้ให้ลงโทษตาม มาตรา 119 กระทงเดียวปรับ 50 บาท
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าศาลชั้นต้นสั่งรับเป็นฎีกาเฉพาะข้อกฎหมาย โจทก์จำเลยไม่คัดค้านอย่างใด จึงต้องถือว่าทั้งสองฝ่ายได้ยอมรับข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์แล้ว
ในข้อผิดตามมาตรา 154 หรือไม่นั้น ศาลอุทธรณ์ฟังว่าการกระทำของจำเลยไม่เกี่ยวกันช่วยผู้เล่นให้หลบหนี ดังนั้นนายชุนจำเลยก็ไม่มีผิดตามมาตรา 154
ข้อที่โจทก์ฎีกาว่า ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำเลยน้อยไป ก็เป็นเรื่องดุลพินิจซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย
ส่วนฎีกา จำเลยคัดค้านว่าไม่ผิดตามมาตรา 119 นั้น ตามข้อเท็จจริงที่ศาลล่างฟังมา ก็เห็นว่าเป็นความผิดตามมาตรา 119 จึงพิพากษายืน