คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1331/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ศาลพิพากษาให้จำเลยเปิดลำห้วยทางตะวันออกของที่ดินโจทก์ให้กว้าง 1 วา ลึก 50 ซม. ยาว 7 วา ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยเปิดลำห้วยเพียงบางส่วนซึ่งห่างไกลคันเขตที่ดินโจทก์จำเลยไม่พอที่จะให้น้ำไหลผ่านไปได้ จำเลยแถลงว่าได้ขุดคันนาด้านตะวันออกของที่ดินโจทก์ตามคำพิพากษาแล้ว แต่น้ำไม่ไหลถ้าโจทก์เห็นว่าขุดไม่ได้ขนาดตามคำพิพากษา จำเลยยอมให้โจทก์ขุดได้ตามคำพิพากษา โจทก์แถลงว่าจำเลยขุดไม่ได้ขนาดตามคำพิพากษา น้ำจึงไม่ไหล ดังนี้ปัญหาจึงมีว่าจำเลยขุดที่ดินได้ขนาดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ เมื่อโจทก์ยังโต้แย้งอยู่ว่าจำเลยขุดไม่ได้ขนาดตามคำพิพากษา ก็ชอบที่ศาลจะไต่สวนให้ได้ความเสียก่อนว่าเป็นความจริงดังที่โจทก์แถลงหรือไม่ แล้วจึงมีคำสั่งต่อไป ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ไปขุดเองให้ได้ขนาดตามคำพิพากษา และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยขุดดินออกจากลำห้วยตามคำพิพากษาจนกว่าน้ำในนาโจทก์จะไหลไปได้นั้น เป็นการไม่ชอบ.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

กรณีสืบเนื่องจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยเปิดลำห้วยสาธารณประโยชน์ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของที่ดินโจทก์กว้าง 1วา ลึก 50 เซนติเมตร ยาว 7 วา ตามฟ้อง คดีถึงที่สุด โจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยเปิดลำห้วยสาธารณประโยชน์เพียงบางส่วน ถือว่าจำเลยยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำบังคับของศาล
ศาลชั้นต้นนัดพร้อม จำเลยแถลงว่าขุดคันนาทางด้านทิศตะวันออกของที่ดินโจทก์ตามคำพิพากษาแล้ว แต่น้ำไม่ไหล ถ้าโจทก์เห็นว่าจำเลยขุดไม่ได้ขนาดตามคำพิพากษา ยอมให้โจทก์ขุดให้ได้ตามคำพิพากษา แต่ไม่ให้เลยไปในที่ดินของจำเลย โจทก์แถลงว่าจำเลยขุดนิดเดียว ไม่ได้ขนาดตามคำพิพากษา น้ำจึงไม่ไหล
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าเมื่อจำเลยยอมให้โจทก์ขุดที่ดินตามแนวเขตให้ได้ขนาดตามคำพิพากษาไปจนสุดที่ดินของโจทก์ที่ติดกับที่ดินจำเลยทางด้านทิศใต้ ก็ให้โจทก์ไปขุดที่ดินให้ได้ขนาดตามคำพิพากษา แต่น้ำจะไหลหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถือว่าจำเลยได้ปฏิบัติตามคดีนี้แล้ว
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น ให้จำเลยขุดดินออกจากลำห้วยสาธารณประโยชน์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่าจะทำให้น้ำในนาของโจทก์ไหลออกไปตามลำห้วยสาธารณะประโยชน์ได้ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์แทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 500 บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ให้จำเลยเปิดลำห้วยสาธารณประโยชน์ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของที่ดินโจทก์ให้กว้าง 1 วาลึก 50 เซนติเมตร ยาว 7 วา และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ 100บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน คดีถึงที่สุด ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยปิดกั้นลำห้วยสาธารณประโยชน์ โดยการถมดินในลำห้วยซึ่งกว้าง 1 วาสูงจากคันนาประมาณ 70 เซนติเมตร ยาวจากทิศเหนือไปยังทิศใต้ 7 วาปรากฏตามแผนที่สังเขปท้ายฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยเปิดลำห้วยสาธารณะประโยชน์ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกที่ดินโจทก์ให้กว้าง 1 วา ลึก 50เซนติเมตร ยาว 7 วา เห็นว่า โจทก์แถลงรับในวันนัดพร้อมว่าจำเลยขุดที่ดินทางทิศตะวันออกที่ดินของโจทก์สุดที่ดินโจทก์ทางทิศใต้ตามฟ้องแล้ว แต่ขุดไม่ได้ขนาดตามคำพิพากษานั้ำจึงไม่ไหลปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยในชั้นนี้จึงมีเพียงว่า จำเลยขุดที่ดินได้ขนาดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ เมื่อโจทก์ยังโต้แย้งอยู่ว่าจำเลยขุดที่ดินที่จำเลยถมลำห้วยสาธารณประโยชน์ออกไม่ได้ขนาดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นชอบที่ศาลชั้นต้นจะไต่สวนข้อเท็จจริงให้ได้ความเสียก่อนว่าเป็นความจริงดังที่โจทก์แถลงหรือไม่อย่างไร แล้วจึงมีคำสั่งให้จำเลยปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นต่อไป ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งและคำพิพากษาให้จำเลยปฏิบัติโดยไม่มีการไต่สวนดังกล่าวจึงเป็นการไม่ชอบ
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ลงวันที่ 22 มีนาคา 2528 และคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนว่าจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นถูกต้องหรือไม่ แล้วมีคำสั่งต่อไปค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้รวมสั่งเมื่อมีคำสั่งใหม่”.

Share