คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2157/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซื้อผ้าจากบริษัท ส. โดยบริษัท ส. ต้องนำผ้าไปว่าจ้างจำเลยย้อมก่อนแล้วจึงส่งมอบแก่โจทก์ และบริษัท ส. เป็นผู้ชำระค่าจ้างย้อม ดังนี้เมื่อไม่มีผู้ใดชำระค่าจ้างย้อมให้จำเลย แม้ว่าผ้าจะเป็นของโจทก์ จำเลยก็ชอบที่จะใช้สิทธิยึดหน่วงผ้าไว้จนกว่าจะได้รับชำระค่าจ้าง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยส่งมอบผ้าแก่โจทก์ โดยที่ยังไม่มีผู้ใดชำระหนี้ค่าย้อมผ้าอันเป็นคุณประโยชน์แก่จำเลยเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งครองนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์มอบให้บริษัทสหไทยการทอ จำกัด นำผ้าของโจทก์จำนวน ๒๑๑ พับไปย้อมสีกับจำเลย ย้อมเสร็จแล้วจำเลยไม่คืนผ้าให้ อ้างว่าบริษัทสหไทยการทอ จำกัด เป็นหนี้เงินจำเลยอยู่ขอให้ศาลพิพากษาบังคับ
จำเลยให้การว่า ผ้าเป็นของบริษัทสหไทยการทอ จำกัด และบริษัทสหไทยการทอ จำกัด เป็นหนี้จำเลยค่าฟอกย้อมผ้าตามฟ้องและผ้าอื่น ๆ จำเลยจึงใช้สิทธิยึดหน่วงผ้าไว้เพื่อเรียกค่าสินจ้าง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยส่งมอบผ้าพิพาทคืนโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๒๔ โจทก์ซื้อผ้าดิบจากบริษัทสหไทยการทอ จำกัด จำนวน๒๑๑ พับ ราคา ๓๒๒,๙๑๔ บาท ตามเอกสารหมาย จ.๔ ในวันเดียวกันผู้ขายส่งผ้าจำนวนดังกล่าวไปให้จำเลยฟอกย้อมเสร็จแล้วให้ส่งผ้าตรงไปยังโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.๕ โดยผู้ขายเป็นผู้จ่ายค่าจ้างให้แก่จำเลย ปฏิบัติดังกล่าวมาหลายครั้ง เพิ่งมาเกิดปัญหาเพราะบริษัทสหไทยการทอ จำกัด ติดค้างค่าจ้างฟอกย้อมจำเลยหลายครั้งรวมทั้งค่าฟอกย้อมคราวนี้ด้วยเป็นเงินรวม ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทเศษ จำเลยจึงไม่ส่งผ้าให้แก่โจทก์จนกว่าจะได้รับชำระค่าจ้าง ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.๘ จำเลยฎีกาว่า จำเลยเป็นผู้ครอบครองผ้าของโจทก์จำเลยมีหนี้ค่าย้อมผ้าดังกล่าวซึ่งจะต้องได้รับตามกฎหมาย จำเลยจึงมีสิทธิยึดหน่วงผ้ารายพิพาทไว้ได้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ค่าย้อมจากโจทก์หรือตัวแทนโจทก์ ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า แม้ผ้ารายพิพาทจะเป็นของโจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อจากบริษัทสหไทยการทอ จำกัดแต่จำเลยเป็นผู้รับจ้างย้อมผ้าดังกล่าวซึ่งเป็นเหตุให้ผ้ามีราคาสูงขึ้น จำเลยชอบที่จะได้รับค่าจ้างจากโจทก์หรือบริษัทสหไทยการทอ จำกัดก่อนส่งผ้าให้โจทก์ เมื่อไม่มีผู้ใดชำระค่าจ้างย้อมผ้าให้จำเลย แม้ว่าผ้าจะเป็นของโจทก์ จำเลยก็ชอบที่จะใช้สิทธิยึดหน่วงผ้าพิพาทไว้จนกว่าจะได้รับชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๔๑ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยให้ส่งผ้าแก่โจทก์โดยที่ยังไม่มีผู้ใดชำระหนี้ค่าย้อมผ้ารายนี้อันเป็นคุณประโยชน์แก่จำเลยเกี่ยวด้วยทรัพย์สินซึ่งครองนั้น
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.

Share