แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 76 จำคุก 1 ปี 4 เดือน และปรับ 14,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ลงโทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติ ดังกล่าว มาตรา 76 วรรคแรก จำคุก 3 เดือนและปรับ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอไว้ 1 ปี ดังนี้ เป็นกรณีที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘, ๒๖, ๗๖, ๑๐๒ ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพว่ามีกัญชาไว้ในครอบครองจริง ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘, ๒๖, ๗๖ จำคุก ๒ ปี ปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลย ๑ ปี ๔ เดือน และปรับ ๑๔,๐๐๐ บาท โทษจำคุกรอไว้ ๒ ปี ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา ๗๖ วรรคแรก ให้จำคุก ๖ เดือนและปรับ ๒,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๓ เดือนปรับ ๑,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ๑ ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๗๖ จำคุก ๑ ปี ๔ เดือน และปรับ ๑๔,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอไว้ ๒ ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้ลง
โทษฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา ๗๖ วรรคแรก ซึ่งเป็นบทกฎหมายมาตราเดียวกัน ลดโทษแล้วคงจำคุก ๓ เดือนและปรับ ๑,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอไว้ ๑ ปี เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ ฎีกาของโจทก์ที่ว่าจำเลยมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าวศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษาให้ยกฎีกาโจทก์