แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำให้การของจำเลยจะต้องใช้กระดาษแบบพิมพ์คำให้การตามที่ทางราชการจัดไว้ จะใช้กระดาษแบบพิมพ์อย่างอื่นอันเป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 67 ไม่ได้.
การยื่นคำให้การในคดีแพ่งต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้ไม่ได้ จำเลยซึ่งต้องขังอยู่ในเรือนจำยื่นคำให้การในคดีแพ่งต่อผู้บัญชาการเรือนจำหรือพัศดีภายในกำหนดระยะเวลาตามมาตรา 177 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ก็ยังถือไม่ได้ว่าได้ยื่นคำให้การต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายแล้ว.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์ไป 16,000 บาท เมื่อครบกำหนดใช้เงินคืนแล้วไม่เคยชำระดอกเบี้ยและเงินต้นให้โจทก์เลยขอให้บังคับจำเลยชำระเงินกู้และดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินกู้และดอกเบี้ยตามฟ้องแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ตามมาตรา 67 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งได้บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งในวรรคท้ายว่า ‘ในการยื่นหรือส่งคำคู่ความหรือเอกสารอื่นใดอันจะต้องทำตามแบบพิมพ์ที่จัดไว้เจ้าพนักงาน คู่ความ หรือบุคคลผู้เกี่ยวข้องจะต้องใช้แบบพิมพ์นั้น……’ โดยเหตุนี้เมื่อจำเลยยื่นคำให้การจำเลยก็จำเป็นต้องใช้กระดาษแบบพิมพ์คำให้การตามที่ทางราชการได้จัดไว้ จะไปใช้กระดาษแบบพิมพ์อย่างอื่นอันเป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งกฎหมายข้อนี้หาได้ไม่ ส่วนปัญหาที่ว่าจำเลยซึ่งต้องขังอยู่ในเรือนจำซึ่งยื่นคำให้การในคดีแพ่งต่อผู้บัญชาการเรือนจำหรือพัศดีภายในกำหนดระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 177 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งจะถือได้หรือไม่ว่าได้ยื่นคำให้การต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาตามกฎหมายแล้วข้อนี้ เห็นว่า การยื่นคำให้การในคดีแพ่งก็ต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จะนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอายามาใช้ไม่ได้ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.