คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 840/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีอ้างว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง โจทก์อุทธรณ์ว่าคำร้องของโจทก์มีขอ้ความชัดว่าโจทก์ร้องขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป มิใช่ขอให้พิจารณาใหม่ ไม่สมควรที่ศาลชั้นต้นจะสั่งจำหน่ายคดี ขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องของโจทก์ จึงเท่ากับอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีโดยไม่ชอบ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แม้โจทก์จะจงใจไม่มาศาลในวันนัดฟังประเด็นกลับ ก็มิใช่เป็นกรณีที่จะถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง คำสั่งของศาลชั้นต้นจึงไม่ชอบ พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ย่อมเป็นการวินิจฉัยในประเด็นโดยตรงที่โจทก์อุทธรณ์แล้ว ไม่จำเป็นที่จะวินิจฉัยว่าจะให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์ต่อไปหรือไม่
ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีวันที่ 19 พฤศจิกายน 2519 วันที่ 22 พฤศจิกายน 2519 โจทก์ยื่นคำร้องว่ามิได้มีเจตนาขาดนัดหรือจงใจละทิ้งคดี ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้อง วันที่ 22 ธันวาคม 2519 ครั้นถึงวันนัดศาลชั้นต้นงดไต่สวนคดีแล้วสั่งยกคำร้อง ต้องถือว่าคำสั่งจำหน่ายคดีของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2519 มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2519 อันเป็นวันที่ศาลชั้นต้นงดการไต่สวนและยกคำร้องและเป็นวันเริ่มต้นนับวันอายุอุทธรณ์ของโจทก์

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอหย่าขาดจากจำเลย จำเลยมีข้อต่อสู้ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์แล้วหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายส่งประเด็นไปสืบพยานโจทก์ที่ศาลแพ่ง เมื่อสืบพยานประเด็นแล้วคู่ความขอให้ส่งประเด็นคืน และขอให้ศาลเดิมนัดฟังประเด็นกลับ วันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา ครั้นถึงเวลานัดโจทก์และทนายโจทก์ไม่มาและมิได้แจ้งเหตุขัดข้องให้ศาลทราบ ศาลชั้นต้นถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๔ ( ๒ ) ให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ต่อมาวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ โจทก์ยื่นคำร้องว่าไม่มีเจตนาขาดนัดพิจารณาหริอจงใจละทิ้งคดีโจทก์หมดพยานที่จะนำสืบแล้ว ขอให้ศาลมีคำสั่งไต่สวนและสืบพยานจำเลยต่อไป ศาลชั้นต้นนัดไต่สวน ครั้นถึงวันนัดศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่จำเป็นต้องไต่สวน เพราะตามคำร้องของโจทก์ดังกล่าวขอให้พิจารณาคดีใหม่ แต่ศาลมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๓๒ จึงไม่มีฝ่ายใดชนะคดี กรณีไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๐๗ ที่จะขอให้พิจารณาคดีใหม่ ชอบที่โจทก์จะฟ้องคดีใหม่ภายในอายุความ ให้ยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์ว่า คำร้องของโจทก์ลงวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๙มีข้อความชัดว่า โจทก์ร้องขอต่อศาลให้ดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป เพราะโจทก์ได้สืบพยานไปหมดแล้ว มิใช่ขอให้พิจารณาใหม่ตามที่ศาลจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา ไม่สมควรที่ศาลชั้นต้นจะสี่งจำหน่ายคดีไปโดยมิได้ฟังเหตุผลของโจทก์ขอให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องของโจทก์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แม้โจทก์จะจงใจไม่มาศาลในวันนัดฟังประเด็นกลับ ก็มิใช่เป็นกรณีที่จะถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง คำสั่งศาลชั้นต้นไม่ชอบ พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป
จำเลยฎีกาว่าโจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้งดการไต่สวนคำร้องของโจทก์ลงวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ เท่านั้น ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษาได้เพียงประเด็นที่ว่าควรให้งดการไต่สวนหรือไม่เท่านั้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งจำหน่ายคดีจนพ้นอายุอุทธรณ์ การจำหน่ายคดีจึงถึงที่สุด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า แม้โจทก์จะจงใจไม่มาศาลในวันนัดฟังประเด็นกลับก็มิใช่เป็นกรณีที่จะถือได้ว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง การที่ศาลชั้นต้นถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องและให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๔ ( ๒ ) และ ๑๓๒ จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบนั้น เป็นการวินิจฉัยข้อกฎหมายโดยอาศัยข้อเท็จจริงที่มีอยู่แล้วในสำนวนเพียงพอที่จะสั่งคำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวไม่ชอบ อันเป็นประเด็นโดยตรงที่โจทก์อุทธรณ์ว่า คำร้องของโจทก์มีข้อความชัดว่าโจทก์ร้องขอต่อศาลชั้นต้นให้พิจารณาต่อไป เพราะโจทก์ได้สืบพยานไปหมดแล้ว มิใช่ขอให้พิจารณาใหม่ตามที่ศาลจดไว้ในรายงานกระบวนการพิจารณา ไม่สมควรที่ศาลชั้นต้นจะสั่งจำหน่ายคดีไปโดยมิได้ฟังเหตุผลของโจทก์ จึงเท่ากับอุทธรณ์ว่าศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีโดยไม่ชอบ จึงไม่จำเป็นที่ศาลอุทธรณ์จะไปวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ว่าจะให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนคำร้องของโจทก์ต่อไปหรือไม่ ในประเด็นที่ว่าการจำหน่ายคดีถึงที่สุดนั้น ปรากฏว่าศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ ต่อมาวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ โจทก์ยื่นคำร้องว่ามิได้เจตนาขาดนัดพิจารณาหรือจงใจละทิ้งคดี ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนคำร้องวันที่ ๒๒ ธันวาคม๒๕๑๙ ครั้นถึงวันนัดศาลชั้นต้นงดการไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์ ต่อมาวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๑๙ โจทก์อุทธรณ์คำสั่งที่ให้งดการไต่สวนคำร้องของโจทก์และให้จำหน่ายคดีต้องถือว่าคำสั่งจำหน่ายคดีของศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๑๙ มีผลแต่วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๑๙ อันเป็นวันที่ศาลชั้นต้นงดการไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของโจทก์อายุอุทธรณ์จึงเริ่มนับตั้งแต่วันดังกล่าวนี้ คำสั่งของศาลชั้นต้นทีให้จำหน่ายคดีหาได้ถึงที่สุดไม่
พิพากษายืน.

Share