แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยใช้ขวานซึ่งคม หน้าขวานกว้างประมาณ 2 นิ้วครึ่ง ด้ามยาวประมาณ 1 ฟุต ฟันศีรษะผู้เสียหายโดยแรง เป็นแผลกว้างถึง 5เซนติเมตร ยาวถึง 20 เซนติเมตร กะโหลกศีรษะแตก ต้องใช้เวลา 6 เดือนรอยแตกจึงจะสมาน และบาดแผลดังกล่าวอาจทำให้ถึงตายได้ เช่นนี้ ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย.(ที่มา-ส่งเสริม)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้ขวานเป็นอาวุธฟันผู้เสียหาย 1 ครั้งโดยเจตนาฆ่า แต่บาดแผลไม่ฉกรรจ์ และแพทย์รักษาได้ทันท่วงทีผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา288 ประกอบมาตรา 80 ลงโทษจำคุก 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 ลงโทษจำคุก 3 ปี
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘…มีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าหรือไม่ เห็นว่า ขวานที่ใช้ฟัน คมหน้าขวานกว้างประมาณ 2 นิ้วครึ่ง ด้ามยาวประมาณ 1 ฟุต นับว่าเป็นขวานขนาดใหญ่ จำเลยฟันศีรษะอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญ และฟันโดยแรงดังจะเห็นจากฐานบาดแผลที่กว้างถึง 5 เซนติเมตรยาวถึง 20 เซนติเมตร กะโหลกศีรษะแตก ที่กะโหลกแตกนี้นายแพทย์โอภาสเบิกความว่าต้องใช้เวลาถึง 6 เดือน รอยแตกจึงจะสมาน และกล่าวว่าลักษณะบาดแผลแสดงว่าถูกฟันโดยแรง การถูกฟันโดยแรงเช่นนี้นายแพทย์โอภาสเบิกความว่าอาจทำให้ถึงตายได้ ด้วยลักษณะของอาวุธ กิริยาที่ฟันโดยแรง ตำแหน่งอวัยวะที่ถูกฟันลักษณะของบาดแผล เป็นข้อที่สอดส่องให้เห็นว่าจำเลยประสงค์ต่อผลหรือย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำของจำเลยได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ว่าการกระทำของจำเลยเป็นเพียงความผิดฐานทำร้ายร่างกายนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษาแก้ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น’.