คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8264/2543

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ผู้ร้องมิได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพราะเหตุเครื่องบินโดยสารล่าช้าผู้ร้องจึงอยู่ในฐานะที่อาจแจ้งเหตุที่ตนไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งภายหลังจากวันเลือกตั้งตามกฎหมายได้ แต่เมื่อไม่ปรากฏชื่อผู้ร้องในประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อให้ผู้ร้องแจ้งเหตุขัดข้องหน้าที่ของผู้ร้องในการแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งจึงยังไม่เกิดขึ้นจะถือว่าผู้ร้องเป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ได้ ผู้ร้องไม่เสียสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
(คำสั่งศาลฎีกา)

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้อง ขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้ผู้คัดค้านรับสมัครผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดกาฬสินธุ์

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้ร้องไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาทั้งผู้ร้องไม่ได้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งเหตุผู้ร้องจึงเสียสิทธิในการสมัครรับเลือกตั้ง ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นสืบพยานแทนศาลฎีกาแล้ว

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ในกรณีผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีเหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้ชิดกับกำหนดเวลาเลือกตั้ง และไม่สามารถแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลที่คณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งไว้ประจำแต่ละเขตเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่าเจ็ดวันตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2541 มาตรา 21 นั้นมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวได้บัญญัติทางแก้ไขโดยกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้งออกประกาศเมื่อครบกำหนดสามสิบวันหลังจากวันเลือกตั้ง ระบุรายชื่อผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุตามมาตรา 21 หรือแจ้งเหตุไว้แล้วแต่เหตุนั้นมิใช่เหตุอันสมควรเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งดังกล่าวแจ้งเหตุที่ตนไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลที่คณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งขึ้นภายในหกสิบวันนับแต่วันประกาศเพื่อพิจารณาว่าเหตุผลที่ผู้นั้นอ้างว่าเป็นเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นเหตุอันสมควรหรือไม่ ในกรณีที่เป็นเหตุอันควรผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นย่อมไม่เสียสิทธิตามมาตรา 23 แต่ถ้าเหตุผลดังกล่าวไม่ใช่เหตุอันสมควรผู้นั้นย่อมเสียสิทธิตามที่กฎหมายบัญญัติอย่างไรก็ตามแม้กฎหมายจะบัญญัติให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งแจ้งเหตุขัดข้องต่อบุคคลที่คณะกรรมการเลือกตั้งแต่งตั้งขึ้นแต่ย่อมเป็นที่เห็นได้อยู่ในตัวว่าการที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายใดจะแจ้งเหตุที่ทำให้ตนไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลดังกล่าวได้นั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องประกาศชื่อผู้นั้นเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุตามมาตรา 21 หรือแจ้งเหตุไว้แล้วแต่เหตุนั้นมิใช่อันสมควรเสียก่อน หากคณะกรรมการเลือกตั้งยังมิได้ประกาศชื่อผู้นั้นเป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 22 หน้าที่ในการแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งของบุคคลนั้นก็ยังไม่เกิดขึ้น สำหรับคดีนี้เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2543 ผู้ร้องไปถึงหน่วยเลือกตั้งเมื่อล่วงพ้นกำหนดเวลาลงคะแนนเลือกตั้งแล้ว 15 นาทีเนื่องจากเครื่องบินโดยสารล่าช้า ผู้ร้องจึงไม่ได้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง จึงต้องถือว่าผู้ร้องเป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งดังกล่าว ผู้ร้องย่อมอยู่ในฐานะที่อาจแจ้งเหตุที่ตนไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อบุคคลซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งแต่งตั้งขึ้นตามมาตรา 22 แต่เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าภายหลังการเลือกตั้งแล้วคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่นได้ออกประกาศฉบับลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2543 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่แจ้งเหตุ หรือแจ้งเหตุแล้วแต่เหตุนั้นมิได้เป็นเหตุอันสมควร โดยไม่มีชื่อผู้ร้องอยู่ในประกาศดังกล่าวทั้งนี้ไม่ว่าการไม่มีชื่อผู้ร้องในประกาศฉบับนั้นเป็นผลสืบเนื่องจากเหตุใดก็ตามหน้าที่ของผู้ร้องในการแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 22จึงยังไม่เกิดขึ้น จะถือว่าผู้ร้องเป็นผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและมิได้แจ้งเหตุการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามมาตรา 22 ไม่ได้ ผู้ร้องจึงไม่เสียสิทธิตามมาตรา 23(3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2541 ที่ผู้คัดค้านไม่ประกาศชื่อผู้ร้องเป็นผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา”

จึงมีคำสั่งให้ผู้คัดค้านรับสมัครผู้ร้องเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตในเขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดกาฬสิทธุ์

Share