คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

สัญญาจะซื้อขายที่ดินมิได้กำหนดเรื่องที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อจะต้องออกค่าธรรมเนียมในการโอนไว้ในสัญญาด้วยดังนั้นการที่จำเลยจะนำพยานบุคคลมาสืบว่าโจทก์ตกลงกับจำเลยว่าจะออกค่าธรรมเนียมในการโอน และเมื่อโจทก์ไม่ยอมออกค่าธรรมเนียมดังกล่าว ถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญานั้นเป็นการนำสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารสัญญาจะซื้อขาย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำสัญญาจะขายที่ดินแก่โจทก์ โจทก์ชำระราคาครบถ้วนแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมโอน ทั้งบอกเลิกสัญญากับโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยโอนที่ดินแก่โจทก์ตามสัญญา

จำเลยให้การว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา เพราะไม่ยอมออกค่าธรรมเนียมการโอน จำเลยจึงบอกเลิกสัญญา ขอให้ยกฟ้อง

ในวันนัดสืบพยานโจทก์ คู่ความท้ากันให้ศาลวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่าจำเลยมีสิทธินำพยานบุคคลเข้าสืบว่ามีข้อตกลงว่าโจทก์จะเป็นฝ่ายออกค่าธรรมเนียมในการโอนที่พิพาทหรือไม่

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยไม่มีสิทธินำพยานบุคคลเข้าสืบในประเด็นที่ท้ากันจำเลยจึงเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า พิพากษาให้จำเลยโอนที่ดินให้แก่โจทก์ตามฟ้อง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สัญญาจะซื้อขายที่ดินมิได้กำหนดเรื่องที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ซื้อจะต้องออกค่าธรรมเนียมในการโอนไว้ในสัญญาด้วย ดังนั้น การที่จำเลยจะนำพยานบุคคลมาสืบว่า โจทก์ตกลงกับจำเลยว่าจะออกค่าธรรมเนียมในการโอน และเมื่อโจทก์ไม่ยอมออกค่าธรรมเนียมดังกล่าว ถือว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญานั้น เป็นการนำสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารสัญญาจะซื้อขาย ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94 จำเลยไม่มีสิทธินำพยานบุคคลเข้าสืบตามข้อต่อสู้ดังกล่าว จึงต้องแพ้คดีตามคำท้า

พิพากษายืน

Share