คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 816/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก จำเลยต่อสู้ว่า ได้มีการตกลงแบ่งมรดกกันแล้ว โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ ซึ่งได้ความว่า โจทก์เคยยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ จำเลยคัดค้านแล้วโจทก์ได้มีหนังสือถึงทนาย ขอให้ถอนคำร้องนั้นเสีย หนังสือที่โจทก์ทำให้ทนายความไว้มีความว่า ตามที่ได้ว่าจ้างให้ดำเนินคดีเป็นผู้จัดการมรดกนายจี๋ นางแดงบัดนี้ได้ตกลงประนีประนอมกันแล้ว จึงไม่ติดใจจะดำเนินคดีต่อไป ขอให้ไปแถลงต่อศาลขอเลิกคดีดังนี้ ย่อมหมายความว่า ประนีประนอมกับอีกฝ่ายหนึ่งในทางคดี ซึ่งอาจจะเป็นอะไรก็ได้ ไม่มีข้อความใดแสดงว่า ได้ประนีประนอมแบ่งมรดกแล้ว จึงไม่เป็นหลักฐานของการแบ่งมรดก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ จำเลยเป็นบุตรนายกี่หรือจี๋ และนางแดงนายกี่นางแดงได้ถึงแก่ความตาย โดยไม่ได้ทำพินัยกรรม ก่อนบิดามารดาตายมีที่บ้านและเรือนกับที่ดินอีก 2 แปลง เป็นไร่แปลงหนึ่งนาแปลงหนึ่ง เมื่อมารดาตาย โจทก์จำเลยและบิดากับพี่น้องคนอื่นไม่ได้แบ่งทรัพย์กัน และเมื่อบิดาตาย โจทก์ จำเลยและทายาทอื่นคงครอบครองทรัพย์มรดกร่วมกันตลอดมา จำเลยไปยื่นคำร้องขอรับมรดกที่นา โจทก์คัดค้าน โจทก์จึงขอแบ่งทั้งหมด 1 ใน 6 ส่วนเป็นเงิน 2,000 บาทจำเลยให้การต่อสู้และตัดฟ้องว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง และฟ้องขาดอายุความแล้ว นายชวนร้องสอดขอเข้ามาเป็นจำเลย ศาลอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งมรดก ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดก จำเลยต่อสู้ว่าได้มีการตกลงแบ่งมรดกกันแล้ว โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ ซึ่งได้ความว่าโจทก์ได้เคยยื่นคำร้องขอเข้าเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้จำเลยคัดค้าน แล้วโจทก์ได้มีหนังสือถึงทนายขอให้ถอนคำร้องนั้นเสียหนังสือที่โจทก์ทำให้ทนายไว้มีความว่า ตามที่ได้ว่าจ้างให้ดำเนินคดีเป็นผู้จัดการมรดกนายจี๋นางแดง บัดนี้ได้ตกลงปรานีประนอมกันแล้ว จึงไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป ขอให้ไปแถลงต่อศาลขอเลิกคดีได้ ซึ่งหมายความว่าประนีประนอมกับอีกฝ่ายหนึ่งในทางคดีซึ่งอาจจะเป็นอะไรก็ดี ไม่มีข้อความใดแสดงว่า ได้ประนีประนอมแบ่งมรดกแล้ว จึงไม่เป็นหลักฐานของการแบ่งมรดก

พิพากษายืน

Share