คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 810/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกเงินตามเช็คฉบับเดียว จำเลยให้การว่าเคยออกเช็ค 2 ฉบับชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์และค่าเบี้ยประกันภัยแก่น. ต่อมาผู้รับประกันภัยไม่ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงห้ามธนาคารจ่ายเงิน ตามคำให้การของจำเลยดังกล่าวไม่อาจทราบได้ว่าเช็ค 2 ฉบับ มีฉบับที่โจทก์ฟ้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธให้ชัดแจ้งจึงต้องถือว่าจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คตามฟ้องจริง
จำเลยมิได้ให้การต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉลหรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับ น. ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันออกเช็คสั่งจ่ายเงินจำนวน ๒๓,๑๒๖บาทแก่ผู้ถือ ชำระหนี้แก่ผู้มีชื่อ และผู้มีชื่อได้มอบเช็คดังกล่าวชำระหนี้แก่โจทก์โจทก์นำเช็คไปขอรับเงิน ธนาคาปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้จำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่าเคยออกเช็ค ๒ ฉบับชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์และค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทนิสสันดีเซล จำกัด ผู้รับประกันภัยไม่ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงได้อายัดเช็คห้ามธนาคารจ่ายเงินจำเลยกับโจทก์ไม่มีหนี้ต่อกันขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยร่วมกันชำระเงินตามฟ้องพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาเฉพาะข้อกฎหมายว่าจำเลยแสดงโดยชัดแจ้งในคำให้การว่าจำเลยปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์เกี่ยวกับเช็คพิพาทรวมทั้งเหตุแห่งการนั้นแล้วหรือไม่ และคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้งดสืบพยานจำเลยชอบหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดชดใช้เงินตามเช็คพิพาทฉบับเดียวจำนวน ๒๓,๑๒๖ บาทซึ่งจำเลยทั้งสองสั่งจ่ายเงินลงวันที่ ๑ สิงหาคม๒๕๒๖ จำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธความรับผิดในเช็คพิพาทโดยชัดแจ้ง คงให้การเพียงว่าจำเลยเคยออกเช็ค ๒ ฉบับชำระหนี้ค่าซื้อรถยนต์และค่าเบี้ยประกันภัยแก่บริษัทนิสสันดีเซล จำกัด สาขานครศรีธรรมราชโดยจำเลยออกเช็คล่วงหน้าก่อนที่ผู้รับประกันภัยจะออกกรมธรรม์ประกันภัยต่อมาผู้รับประกันภัยไม่ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้ตามที่ตกลงกันไว้ จำเลยจึงอายัดเช็คห้ามธนาคารจ่ายเงินตามเช็คเท่านั้น ซึ่งศาลฎีกาเห็นว่าตามคำให้การจำเลยดังกล่าวไม่อาจทราบได้ว่าเช็ค ๒ ฉบับดังกล่าวมีฉบับที่โจทก์ฟ้องรวมอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธให้แจ้งชัดดังกล่าวจึงต้องถือว่าจำเลยรับว่าได้สั่งจ่ายเช็คพิพาทตามฟ้องจริง นอกจากนี้จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าการโอนเช็คให้โจทก์มีขึ้นด้วยการคบคิดกันฉ้อฉล หรือโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยไม่สุจริต จำเลยจะยกข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างจำเลยกับบริษัทนิสสันดีเซล จำกัด ขึ้นต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๙๑๖ จำเลยจึงต้องรับผิดต่อโจทก์ศาลชั้นต้นงดสืบพยานจำเลยชอบแล้ว
พิพากษายืน.

Share