แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทน ผู้รับมอบอำนาจแต่งทนายความลงชื่อในฟ้องได้โดยไม่ต้องมีใบมอบอำนาจให้แต่งทนายอีก
ฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเช่าซื้อตั้งแต่วันฟ้องต่อไปจนกว่าจะออกจากที่ดินที่เช่าซื้อ หมายความถึงค่าเสียหาย ไม่ใช่ค่าเช่าซื้อ โจทก์ใช้ถ้อยคำผิดพลาด ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินที่จำเลยเช่าซื้อกับให้ใช้ค่าเสียหายเดือนละ 6,000 บาทนับตั้งแต่วันฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ที่ 4 ไม่มีอำนาจแต่งทนายความแทนโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 โจทก์ที่ 3 เพราะโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2โจทก์ที่ 3 ไม่ได้มอบอำนาจให้โจทก์ที่ 4 แต่งทนายความเข้าดำเนินคดี การที่ทนายความยื่นฟ้องคดีแทนโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 โจทก์ที่ 3 จึงไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 โจทก์ที่ 3 ทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ที่ 4ฟ้องคดีแทน โจทก์ที่ 4 จึงมีอำนาจแต่งทนายความแทนโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2โจทก์ที่ 3 ได้โดยไม่ต้องได้รับมอบอำนาจให้แต่งทนายความอีก และทนายความซึ่งโจทก์ที่ 4 แต่งตั้งให้เป็นทนาย ย่อมมีอำนาจลงนามในฟ้องแทนโจทก์ที่ 1โจทก์ที่ 2 โจทก์ที่ 3 ได้โดยชอบ” ฯลฯ
“ที่จำเลยฎีกาว่า ศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไม่ชอบเพราะโจทก์มิได้ฟ้องเรียกให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย และจำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้ในเรื่องค่าเสียหายนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยใช้ค่าเช่าซื้อนับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะออกไปจากที่ดินโจทก์นั้น เห็นได้ชัดว่าหมายถึงค่าเสียหายในการที่โจทก์มิได้ใช้ที่ดินพิพาทนั้นเอง หาใช่ค่าเช่าซื้อไม่เป็นเรื่องโจทก์ใช้ถ้อยคำผิดพลาด ศาลย่อมพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ได้”
พิพากษายืน