คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 803/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ราคาสินค้าที่กรมศุลกากรโจทก์ที่ 1 ได้รับแจ้งมาเป็นราคาขายภายหลังจากที่จำเลยนำสินค้าของจำเลยเข้ามาในราชอาณาจักรแล้วถึงปีเศษ จึงไม่ใช่ราคาซื้อขายซึ่งจะพึงขายของชนิดเดียวกันได้โดยไม่ขาดทุน ณ เวลาและที่ที่นำของเข้าอันเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดตาม พ.ร.บ.ศุลกากรพุทธศักราช 2469 มาตรา 2 โจทก์ที่ 1 จึงจะใช้ราคาที่ได้รับแจ้งมานั้นประเมินให้จำเลยเสียภาษีสำหรับสินค้าของจำเลยไม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำเขากวางอ่อนติดกะโหลกจากเมืองฮ่องกงเข้ามาในราชอาณาจักร หนัก 28.36 กิโลกรัม โดยสำแดงราคาในการยื่นใบขนสินค้าขาเข้ากิโลกรัมละ 750 ดอลลาร์ฮ่องกง คิดเป็นเงินไทย 92,258.62 บาท จำเลยชำระอากรขาเข้า ภาษีการค้า และภาษีบำรุงเทศบาลรวม 29,830.30 บาท กับวางประกันเงินค่าอากรอีก 6,400 บาท แล้วรับสินค้าไป โจทก์ที่ 1 ทำการตรวจสอบแล้วปรากฏว่าราคาที่แท้จริงของสินค้าที่จำเลยนำเข้ากิโลกรัมละ 3,180 ดอลลาร์ฮ่องกงซึ่งจำเลยจะต้องเสียภาษีอากรและเงินเพิ่มภายหลังที่หักเงินที่จำเลยวางประกันไว้แล้วเพิ่มอีก 91,236.61 บาท จำเลยเพิกเฉยไม่นำภาษีอากรมาชำระภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด จำเลยจึงต้องเสียเงินเพิ่มและต้องชำระภาษีอากรเพิ่มเติมทั้งสิ้น 185,823.53 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าภาษีอากรดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดโจทก์ไม่มีอำนาจนำราคาที่กำหนดไว้ภายหลังจากที่จำเลยนำเข้าถึง 2 ปีมาเป็นเกณฑ์ประเมินราคาสินค้าให้จำเลยเสียภาษี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘จำเลยนำเขากวางอ่อนรายนี้เข้ามาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2520 ราคาที่โจทก์ที่ 1 ประเมินให้จำเลยเสียค่าภาษีเป็นราคาที่กงสุลฝ่ายศุลกากรประจำสถานทูตไทยที่ฮ่องกงแจ้งมาเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2522 ภายหลังที่จำเลยนำสินค้าของจำเลยเข้ามาแล้วถึงปีเศษ ที่นางสาวประภา หลักทองและร้อยตรีเสริญ สุนทรชาติ พยานโจทก์ทั้งสองเบิกความว่า ราคาเขากวางอ่อนติดกะโหลกที่ฮ่องกงประเภทและชนิดเดียวกันกับที่จำเลยนำเข้า ระหว่างปี 2519 ถึงปี 2522 ไม่มีการเปลี่ยนแปลงนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า พยานเบิกความลอย ๆ เชื่อไม่ได้ดังนี้ จะนำราคาที่โจทก์ที่ 1 ได้รับแจ้งมาเปรียบเทียบเพื่อหาราคาอันแท้จริงในท้องตลาดสำหรับสินค้าของจำเลยไม่ได้ เพราะราคาสินค้าที่โจทก์ที่ 1 รับแจ้งมาไม่ใช่ราคาซื้อขายเขากวางอ่อนติดกะโหลกในขณะที่จำเลยซื้อสินค้าชนิดเดียวกันของจำเลยที่จะนำมาพิจารณาว่าหากนำเขากวางอ่อนติดกะโหลกรายที่โจทก์ที่ 1 รับแจ้งเข้ามา และขาย ณ เวลาและที่ที่นำของ (สินค้าของจำเลย) เข้ามาแล้วจะไม่ขาดทุน อันเป็นหลักเกณฑ์อย่างหนึ่งในการพิจารณาราคาอันแท้จริงในท้องตลาดที่พระราชบัญญัติศุลกากร พุทธศักราช2469 มาตรา 2 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติศุลกากร(ฉบับที่9) พ.ศ. 2482 มาตรา 3 ให้บทวิเคราะห์ไว้ เมื่อราคาเขากวางอ่อนติดกะโหลกที่กงศุลฝ่ายศุลกากรประจำสถานทูตไทยที่ฮ่องกงแจ้งมามิใช่ราคาอันแท้จริงในท้องตลาด โจทก์ที่ 1จึงใช้ราคานั้นประเมินให้จำเลยเสียภาษีสำหรับสินค้าของจำเลยไม่ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ทั้งสองฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.

Share