คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 995/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามบทบัญญัติมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้าย พ.ศ.2510 มิได้ระบุว่า ป้ายจะต้องแสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่มีลักษณะเฉพาะ ดังนั้นป้ายที่แสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่มีลักษณะทั่วไป ก็เป็นป้ายตามความหมายแห่งมาตรา ดังกล่าว ป้ายของโจทก์ซึ่งมีข้อความว่า ‘สำนักงานแพทย์ สิวฝ้า โรคผิวหนังและโรคทั่วไป’ เป็นป้ายแสดงชื่อซึ่งมีลักษณะทั่วไป จึงเป็นป้ายซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน
เมื่อนายกเทศมนตรี ได้แจ้งเตือนให้โจทก์ไปชำระภาษีป้ายย้อนหลัง 5 ปี โจทก์มอบอำนาจให้ อ. เป็นผู้นำเงินไปชำระค่าภาษีป้าย อ. ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายประจำปี เอกสารทุกฉบับระบุว่า อ. เป็นผู้มายื่นแทนโจทก์ผู้เป็นเจ้าของป้ายการกระทำของ อ. ดังกล่าวจึงเป็นการกระทำแทนโจทก์หรือในนามของโจทก์ ด้านหลังเอกสารดังกล่าวทุกฉบับ มีรายการประเมินภาษีป้ายลงนามโดย ร. ผู้รักษาการแทนสมุห์บัญชีซึ่งนายกเทศมนตรีมีคำสั่งให้สมุห์บัญชีหรือผู้รักษาการแทนเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ประเมินภาษีป้าย ร. จึงเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจประเมินภาษีป้ายและถือว่ามีการประเมินภาษีป้ายโดยชอบแล้ว.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอศาลพิพากษาแก้คำวินิจฉัยของผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางในข้อ 1, 3 และ 4 ของหนังสือแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ลป.0016/3902 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2530 และให้จำเลยที่ 1 คืนเงินจำนวน 484 บาทให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยและถ้าโจทก์ต้องเสียภาษีป้ายให้จำเลยที่ 1 คืนเงินจำนวน 400 บาทให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยทั้งสองให้การต่อสู้คดีหลายประการและว่าการประเมินเรียกเก็บภาษีป้ายจากโจทก์ได้กระทำไปตามอำนาจหน้าที่และโดยชอบด้วยกฎหมาย และการวินิจฉัยอุทธรณ์ก็เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติภาษีป้ายพ.ศ.2510 ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่าตามอุทธรณ์ของโจทก์ที่ว่าป้ายของโจทก์ซึ่งมีข้อความว่า ‘สำนักงานแพทย์สิวฝ้าโรคผิวหนังและโรคทั่วไป’ เป็นป้ายตามความหมายของพระราชบัญญัติภาษีป้ายพ.ศ.2510 มาตรา 6 ซึ่งจะต้องเสียภาษีป้ายหรือไม่ นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าตามบทบัญญัติมาตราดังกล่าวป้ายหมายความว่าป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะได้แสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษร ภาพหรือเครื่องหมายที่เขียนแกะสลักจารึกหรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีอื่นที่โจทก์อุทธรณ์ว่าป้ายดังกล่าวของโจทก์มิใช่ป้ายแสดงชื่อยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่มีลักษณะเฉพาะจึงไม่มีลักษณะเป็นป้ายตามมาตรา 6 นั้นเห็นได้ว่า บทบัญญัติมาตราดังกล่าวมิได้ระบุเลยว่าป้ายจะต้องแสดงชื่อ ยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่มีลักษณะเฉพาะดังที่โจทก์กล่าวอ้าง ดังนั้นป้ายที่แสดงชื่อยี่ห้อหรือเครื่องหมายที่มีลักษณะทั่วไป ก็เป็นป้ายตามความหมายแห่งมาตราดังกล่าวเช่นเดียวกันป้ายดังกล่าวของโจทก์เป็นป้ายแสดงชื่อซึ่งมีลักษณะทั่วไป จึงเป็นป้ายตามความหมายแห่งมาตราดังกล่าวซึ่งโจทก์มีหน้าที่ต้องเสียภาษีป้ายตามมาตรา 7แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน
สำหรับปัญหาข้อที่ 2 ที่ว่ามีการประเมินและแจ้งการประเมินโดยชอบหรือไม่ โจทก์อุทธรณ์ว่าการประเมินและแจ้งการประเมินกระทำโดยนายกเทศมนตรีเมืองลำปางซึ่งไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 10 (1) แห่งพระราชบัญญัติภาษีป้ายพ.ศ.2510 ดังนั้นการประเมินและแจ้งการประเมินจึงไม่ชอบนั้น เห็นว่าเมื่อนายกเทศมนตรีเมืองลำปางได้แจ้งเตือนให้โจทก์ไปชำระภาษีป้ายย้อนหลัง 5 ปีเริ่มตั้งแต่ภาษีป้ายปีพ.ศ.2525 โจทก์มอบอำนาจให้นางสาวอำพรรณ เมืองคำบุตรเป็นผู้นำเงินไปชำระค่าภาษีป้ายนางสาวอำพรรณได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้ายประจำปีพ.ศ.2525ถึง 2529 หมาย ล.3 ถึง ล.7 รวม 5 ฉบับเอกสารดังกล่าวนี้ทุกฉบับระบุชื่อโจทก์เป็นเจ้าของป้ายและระบุว่านางสาวอำพรรณเป็นผู้มายื่นแทนโจทก์การกระทำของนางสาวอำพรรณดังกล่าวจึงเป็นการกระทำแทนโจทก์หรือในนามของโจทก์ ด้านหลังเอกสารหมาย ล.3ถึง ล.7 ทุกฉบับมีรายการประเมินภาษีป้ายซึ่งนางรัศมีไข่มุกพร้อมเพรียงลงนามในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ประเมินภาษีป้ายและนางสาวอำพรรณลงนามในฐานะผู้ชำระภาษีป้าย ซึ่งหมายถึงกระทำแทนหรือในนามของโจทก์ ปรากฏตามภาพถ่ายคำสั่งพนักงานเทศบาลเมืองลำปาง ที่ 37/2516 เรื่องแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการภาษีป้ายว่านายกเทศมนตรีเมืองลำปางได้มีคำสั่งให้สมุห์บัญชีหรือผู้รักษาการแทนเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ประเมินภาษีป้าย ดังนั้นนางรัศมีไข่มุกซึ่งขณะนั้นรักษาการแทนสมุห์บัญชีจึงเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจประเมินภาษีป้ายรายนี้โดยชอบ จึงถือว่ามีการประเมินภาษีป้ายรายนี้โดยชอบแล้ว ทั้งนี้เพราะพระราชบัญญัติภาษีป้ายพ.ศ.2510 มิได้บัญญัติถึงวิธีการประเมินภาษีป้ายไว้เลยโดยมาตรา 17 เพียงแต่กล่าวว่าให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประเมินภาษีป้ายตามบัญชีภาษีป้ายท้ายพระราชบัญญัตินี้และแจ้งการประเมินไปยังเจ้าของป้าย การแจ้งการประเมินกระทำอย่างไร พระราชบัญญัตินี้ก็มิได้ระบุไว้ ดังนั้นการที่นางรัศมีไข่มุกแจ้งการประเมินดังกล่าวให้นางสาวอำพรรณซึ่งกระทำแทนและในนามของโจทก์ทราบ และนางสาวอำพรรณก็ลงชื่อรับทราบการประเมินและจ่ายเงินค่าภาษีป้ายจึงถือได้ว่าโจทก์ได้รับแจ้งการประเมินโดยชอบแล้ว แม้โจทก์จะมอบอำนาจให้นางสาวอำพรรณชำระค่าภาษีป้ายก็ตามก็ต้องถือว่าการกระทำของนางสาวอำพรรณที่เกี่ยวข้องกับการชำระค่าภาษีป้ายทั้งหมดซึ่งรวมทั้งการรับแจ้งการประเมินด้วยอยู่ในขอบข่ายแห่งการมอบอำนาจนั้น
พิพากษายืน.

Share