คำสั่งคำร้องที่ 2146/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นโดยไม่เชื่อว่าผู้ร้องจะซื้อรถพิพาทจากจำเลยไปจริงตามคำร้อง ฎีกาของผู้ร้องโต้แย้งเรื่องดังกล่าว เป็นฎีกาในข้อเท็จจริง จึงไม่รับฎีกา
ผู้ร้องเห็นว่า ผู้ร้องได้ฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่าสัญญาซื้อขายรถยนต์พิพาทเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด กรรมสิทธิ์ในรถยนต์พิพาทย่อมโอนเป็นของผู้ร้องแล้วตั้งแต่ขณะทำสัญญาซื้อขายโปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของผู้ร้องไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 14)
กรณีเป็นชั้นบังคับคดี
คดีสืบเนื่องจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล คันหมายเลขทะเบียน น-0224 นครสวรรค์ เพื่อขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องยื่นคำร้องว่ารถยนต์คันที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้องไม่ใช่ของจำเลย โจทก์ไม่มีอำนาจนำยึด ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้องของผู้ร้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 4)
ผู้ร้องจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 9)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น โดยไม่เชื่อว่าผู้ร้องจะซื้อรถพิพาทจากจำเลยไปจริงตามคำร้อง ผู้ร้องฎีกาว่าผู้ร้องทำสัญญาซื้อขายรถพิพาทจากจำเลย ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาด จึงเห็นได้ว่ามีการซื้อขายกันจริงนั้น เป็นการโต้เถียงการรับฟังพยานหลักฐาน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 คำสั่งศาลชั้นต้นชอบแล้ว ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ

Share