คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาจะขายไม้ให้แก่โจทก์แม้จะปรากฏว่าไม้ที่จำเลยทำสัญญาจะขายนั้นเป็นไม้ที่ถูกเจ้าพนักงานจับและยึดไว้เป็นของกลางเพราะใบอนุญาตขาดอายุ สัญญาจะซื้อขายไม้ดังกล่าวนั้นก็สมบูรณ์ไม่เป็นโมฆะเพราะวัตถุประสงค์ของสัญญานั้น คือการจะขายไม้ไม่ได้ถูกต้องห้ามโดยกฎหมายหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างไร

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาไม่ส่งไม้ให้โจทก์ ขอให้ศาลบังคับจำเลยให้คืนเงินมัดจำและใช้ค่าปรับรวมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยต่อสู้ว่า โจทก์จำเลยทำสัญญาขายไม้ซึ่งโจทก์ทราบดีแล้วว่าไม่ได้ถูกจับและผู้มีชื่อคนหนึ่งได้รักษาไว้ ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า โจทก์กับผู้มีชื่อเข้าหุ้นกันทำไม้ โดยมอบเงิน 50,000 บาทให้จำเลยทำไม้รายนี้ ให้ทำเมื่อใบอนุญาตขาดอายุจนถูกเจ้าพนักงานจับและยึดไม้เป็นของกลาง โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องเงิน 50,000 บาท ที่มอบให้จำเลยไปและไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าปรับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า สัญญาซื้อขายไม้ที่โจทก์นำมาฟ้องกับไม้ที่ถูกจับเป็นคนละราย จำเลยต้องรับผิดคืนเงิน 50,000 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยค่าปรับไม่ให้
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาเป็นทำนองว่าสัญญาจะซื้อขายไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายนั้น แม้จะได้ความว่าไม้ที่จำเลยตกลงจะขายให้โจทก์เป็นไปที่ถูกจับแล้ว จำเลยก็ทำสัญญาจะขายไม้นั้นแก่โจทก์ได้ วัตถุประสงค์คือการจะขายไม้ไม่ได้ถูกต้องห้ามโดยกฎหมายหรือเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศิลธรรมอันดีของประชาชนแต่อย่างไร การที่จำเลยจะเอาไม้นั้นมาขายให้โจทก์ได้อย่างไรเป็นเรื่องความสามารถของจำเลย สัญญาจะซื้อขายจึงสมบูรณ์ตามกฎหมายไม่เป็นโมฆะ กรณีเงินมัดจำ จำเลยไม่ได้ให้การถึงว่าได้รับหรือไม่ได้รับ จึงต้องถือว่าจำเลยได้รับมัดจำไว้จากโจทก์ 50,000 บาทจริงโจทก์ฟ้องว่าจำเลยผิดสัญญาเพราะมิได้ส่งไม้ตามกำหนด โจทก์ทวงถามขอเงินมัดจำคืนก็ไม่คืนให้ จำเลยไม่ให้การถึงโจทก์นำสืบฟังได้ จำเลยจึงต้องคืนเงินมัดจำแก่โจทก์ เรื่องอายุความข้อกฎหมายเป็นคนละเรื่องไร้สาระไม่วินิจฉัย
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share